คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวการประชุมวิชาการ “บุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ” ครั้งที่ 12 เรื่อง “กลลวงโฆษณาของพ่อค้าบุหรี่” จัดโดยศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมการยาสูบ (ศจย.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 ห้ามโฆษณาผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์ยาสูบใน หลายส่วน แต่การโฆษณาทางอ้อมหรือการโฆษณาแฝง ยังไม่มีการห้าม จึงมีการร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคยาสูบ พ.ศ…. (ฉบับใหม่) ซึ่งมีการควบคุมเรื่องการห้ามเผยแพร่ข่าวสาร การให้การสนับสนุนโดยยาสูบ หรือซีเอสอาร์ ในทุกสื่อ และปรับปรุงคำนิยาม “การโฆษณา” ให้ครอบคลุมการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ๆ อาทิ การใช้สื่อบุคคลหรือพริตตี้ ในการส่งเสริมการขายยาสูบ เป็นต้น

ผศ.ดร.ปิยะรัตน์ นิ่มพิทักษ์พงศ์ นักวิชาการคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร(มน.) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทบุหรี่ใช้วิธีการสื่อสารการตลาดแบบใหม่ๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของเยาวชนอย่างมาก เช่น การโฆษณาขายผ่านอินเทอร์เน็ต มีแอพพลิเคชั่นเลียนแบบการสูบบุหรี่ โดยใช้โทรศัพท์มือถือมาจ่อที่ปากทำท่าเลียนแบบการสูบ ในจอก็จะปรากฏภาพควันบุหรี่ออกมา โดยเฉพาะเด็กให้เข้าถึงบุหรี่มากขึ้น จึงต้องแก้ไข พ.ร.บ.ให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า การขึ้นภาษีทำให้ราคาบุหรี่แพงขึ้น เพื่อที่คนสูบน้อยลงหรือเลิกสูบ การห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ การพิมพ์ภาพคำเตือนเพื่อเตือนอันตรายของยาสูบ การห้ามโฆษณาเพื่อห้ามสิ่งกระตุ้นให้คนสูบบุหรี่ ทุกมาตรการจึงต้องนำมาใช้พร้อมกัน และเพิ่มความเข้มข้นขึ้น ซึ่งการขยายขนาดภาพคำเตือนของ สธ. เพื่อประสิทธิภาพในการคุ้มครองสุขภาพที่สูงสุด