เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

           เมื่อวันที่ 6 พ.ย. นพ.รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐ สุวรรณ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธ ศาสตร์ส่งเสริมจริยธรรมผู้ใช้ยาและยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม กล่าวว่า ขณะนี้การจัดทำร่างเกณฑ์ส่งเสริมจริยธรรมผู้ใช้ยาและยุติการส่งเสริมการขาย ยาที่ขาดจริยธรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก ครอบคลุมผู้ที่เกี่ยวข้องหลาย ๆ ฝ่าย โดยขั้นตอนต่อจากนี้จะเร่งส่งร่างเกณฑ์ฉบับดังกล่าวให้กับคณะอนุกรรมการส่ง เสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลพิจารณาและขับเคลื่อนต่อไปในกลุ่มผู้เกี่ยว ข้อง เช่น กลุ่มผู้สั่งใช้ยา สภาวิชาชีพต่าง ๆ ทั้งนี้จะนำร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปนำเสนอความคืบหน้าในเวทีสมัชชาสุขภาพ แห่งชาติ ประมาณวันที่ 19-21 ธ.ค. นี้

          ด้านผศ.ดร.ภญ.สุนทรี ท. ชัยสัมฤทธิ์โชค เลขานุการและคณะทำงานฯ กล่าวว่า กระบวนการจัดทำร่างเกณฑ์จริยธรรมดังกล่าว ได้นำความคิดเห็นจากการรับฟังความคิดเห็นจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ผ่านเข้ามาทั้งทางอีเมล อินเทอร์เน็ต และทางจดหมาย รวมถึงข้อคิดเห็นจากการประชุมระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้น คณะทำงานได้นำมาประมวลผลและปรับแก้บางส่วน เช่น การใช้ภาษาคำพูดที่ดูหละหลวม หรือสิ่งที่อาจสร้างความเข้าใจผิดให้เข้าใจตรงกัน แต่ยังคงหลักการใหญ่ ๆ เอาไว้ ขณะนี้เหลือแค่การแก้ไขคำผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนส่งให้ ศ.นพ.คลินิก ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ ประธานคณะอนุกรรมการการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล พิจารณาก่อนส่งให้ ครม.พิจารณา

          ผศ.ดร.ภญ.สุนทรี กล่าวต่อว่า ร่างเกณฑ์จริยธรรมที่ออกมาจะต้องนำไปทดลองใช้ก่อนเพื่อหาข้อดีข้อเสียและ ปรับแก้ให้สามารถยอมรับได้ทุกฝ่าย โดยขอให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เป็นหน่วยงานหลักในการทำข้อตกลงกับผู้ที่สนใจ หรืออาสาสมัครมาทดลองใช้ร่างเกณฑ์จริยธรรมฉบับนี้ เพื่อเก็บข้อมูลว่าร่างเกณฑ์ข้อไหนที่ทำได้ หรือข้อไหนที่ทำไม่ได้ ถือว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน เพราะร่างนี้ยังไม่มีความสมบูรณ์ อาจจะมีข้อบกพร่อง ไม่ตรงใจหลาย ๆ ฝ่าย คณะทำงานยินดีที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขในทุกขั้นตอนหากเกิดผลดีกับผู้บริโภคกับ ประเทศชาติ “ร่างเกณฑ์จริยธรรมฉบับนี้ ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบยาทุกกลุ่ม แต่ก็ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงที่ไปกระทบกับวัฒนธรรม วิธีการดูแลระบบยาแบบเดิมทำได้ยาก โดยพยายามทำให้เกิดวัฒนธรรม วิธีคิดแบบใหม่ และอยากให้คนรุ่นใหม่เข้าใจว่ามันเป็นปัญหาจริยธรรม จึงอยากให้ สช.ขับเคลื่อนและสร้างความรับรู้ว่าเรื่องยา เรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องของมนุษยธรรม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นธุรกิจที่ต้องไม่ขาดทุน แต่ก็ต้องไม่ใช่ธุรกิจที่ค้ากำไรที่ไม่สมเหตุสมผล” ผศ.ดร.ภญ.สุนทรี กล่าว