สาธารณสุขเชียงรายห่วงใยสุขภาพของประชาชนช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว อาจเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ขอให้ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เนื่องจากปีนี้ยอดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สูงกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า
นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 1 พฤศจิกายน 2559 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั่วประเทศจำนวน 137,096 คน คิดเป็นอัตราป่วย 209.55 ต่อแสน เสียชีวิต 35 คน ผู้ป่วยโรคแทรกซ้อนโดยเฉพาะปอดอักเสบ หรือปอดบวม 201,817 คน เสียชีวิต 305 คน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน และจังหวัดเชียงรายจากการรายงานของงานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 3,367 คน คิดเป็นอัตราป่วย 277.24 ต่อแสน ไม่มีเสียชีวิต ช่วยเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้พบผู้ป่วยมากถึง 1,354 คน เนื่องจากขณะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ทั้งฝนตก อากาศร้อนในตอนกลางวัน และหนาวเย็นช่วยตอนกลางคืน ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันเกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าปกติ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย จึงมีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชน เพราะสภาวะอากาศเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี 2. กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป และ 3.กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ โรคไต และโรคโลหิตจาง เป็นต้น เนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคต่ำ จะเจ็บป่วยได้ง่าย และเมื่อป่วยแล้วอาการมักรุนแรงกว่าประชาชนทั่ว ๆ ไป ควรต้องระวังเป็นพิเศษ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด และอากาศถ่ายเทไม่สะดวก หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ รักษาอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่นด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าให้หนา ๆ นอกจากนั้นต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
นายแพทย์สุรินทร์ ได้กล่าวเพิ่มเติมกับนักข่าวสุขภาวะว่า ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดตามตัวปวดกล้ามเนื้อมาก อ่อนเพลีย ขมในคอ เบื่ออาหาร เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกใส จุกแน่นท้อง คลื่นไส้อาเจียน ไอแห้ง ๆ หากมีไข้ควรนอนพักผ่อนให้มาก ๆ ล้างมือด้วยสบู่บ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื่อสู่ผู้อื่น ไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะมากินเอง ซึ่งจะทำให้เชื้อดื้อยา กรณีเป็นไข้และมีอาการดังกล่าวข้างต้นภายใน 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป อิสระ บุญอนันต์ นักข่าวสุขภาวะ จ.เชียงราย รายงาน สนิท อินทรังษี สสจ.ชร. ข่าว