สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานีเตือนประชาชนถึงอันตรายของการรับประทานเห็ดพิษ

ช่วงนี้เข้าฤดูฝน ประชาชนจะเข้าป่าหาเห็ดมารับประทาน หรือเก็บมาขายเพื่อเพิ่มรายได้ แต่เห็ดบางชนิดมีพิษอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งจากรายงานทางระบาดวิทยาแต่ละปีในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือน พฤษภาคม – กันยายน ในทุกปี มักจะเกิดโรคอาหารเป็นพิษจากการรับประทานเห็ดป่า มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตหลายราย

นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ในแต่ละปีมีผู้ป่วยและที่เสียชีวิตจากการรับประทานเห็ดพิษ ซึ่งส่วนใหญ่จะออกไปหาเห็ดป่ามารับประทาน โดยคิดว่าเป็นเห็ดที่สามารถรับประทานได้ สำหรับเห็ดพิษในประเทศไทยไทยที่ทำให้คนเสียชีวิตมากยิ่งกว่าเห็ดพิษชนิดอื่น นั่นก็คือเห็ดที่คนอีสานเรียกว่าเห็ดระโงกหิน ภาคเหนือเรียกว่าเห็ดไข่ห่านขาวตีนตัน ลักษณะของดอกเห็ดอ่อนจะเป็นก้อนกลมสีขาว มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-6 ซม. แล้วแต่ความสมบูรณ์ของแหล่งเกิด ดอกเห็ดจะยึดเป็นรูปไข่ ผิวด้านบนบาง และแตกออกเป็นเป็นรูปถ้วยรองรับ และบางส่วนติดอยู่ที่ผิวหมวก ซึ่งต่อมาเจริญออกเป็นรูปร่ม ต่างจากเห็ดระโงกที่กินได้ คือ จะมีโคนต้นไม่โป่งออกและหลุดออกจากเปลือกหุ้มดอกได้ง่าย แต่เห็ดไข่ห่านตีนตันหรือเห็ดระโงกหิน นั้น ดอกเห็ดเล็กกว่าโคนต้น เนื้อในโคนต้นตัน แม้ปรุงอาหารมีรสอร่อย แต่เป็นพิษร้ายแรงมากพิษของเห็ดเหล่านี้เป็นพิษที่ไม่สามารถละลายในน้ำ และไม่ละลายในความร้อน ดังนั้นเมื่อรับประทานเห็ดชนิดนี้เข้าไปจะเป็นการรับพิษโดยตรง หลังจากรับประทานไปภายในระยะเวลา 6 – 12 ชั่วโมง จะทำให้มีอาการระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ต่อจากนั้นอาการจะทุเลาลงระยะหนึ่ง ซึ่งต่อมาจะพัฒนาไปสู่การทำลายตับและอวัยวะอื่น ๆ ทำให้เกิดอาการตัวเหลือง ตาเหลืองและการแข็งตัวของเลือดผิดปกติรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ภายใน 6 – 12 วัน ลักษณะของเห็ดที่ไม่ควรเก็บมารับประทาน คือ เห็ดที่เป็นสีน้ำตาล เห็ดที่มีปลอกหุ้มโคน เห็ดที่มีโคนอวบ เห็ดที่มีหมวกเห็ดเป็นรู แทนที่จะเป็นช่องๆ คล้ายครีบปลา เห็ดที่มีลักษณะคล้ายสมองหรืออานม้า เห็ดตูมที่มีเนื้อในสีขาว เห็ดที่ขึ้นใกล้มูลสัตว์ เห็ดที่มีหมวกเห็ดสีขาว เห็ดทีมีวงแหวนใต้หมวก และเห็ดที่มีปุ่มปม และสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง คืออ ถ้ากินเห็ดแล้วมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียให้รีบไปพบแพทย์ทันที

เห็ดป่า เมนูอาหารจานโปรดของใครหลายๆคน แต่ต้องระวังด้วยนะคะว่าเป็นเห้ดพิษหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจไม่ควรรับประทาน ซึ่งขอย้ำวิธีสังเกตเห็ดพิษง่าย ๆดังนี้ ค่ะ 1.สีเข้มจัด เช่น แดง ส้ม ดำ หรือมีสีฉูดฉาด 2. มีแผ่นหรือเกล็ดขรุขระบนหมวกเห็ด 3.มีวงแหวนพันรอบบนก้านดอกเห็ด วงแหวนนี้จะเป็นตัวเชื่อมเนื้อเยื่อของหมวกเห็ด และก้านดอกให้ติดกันเมื่อดอกเห็ดบาน 4. มีขนหรือหนามเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป 5. มีกลิ่น 6. มีน้ำเมือก หรือมีน้ำยางสีขาวออกมาเมื่อกรีดที่หมวกเห็ด และ7.ครีบที่อยู่ใต้หมวกมีสีขาว สปอร์ในครีบมีสีขาว เช่นกัน ถ้าพบเห็ดลักษณะดังกล่าวเหล่านี้ไม่ควรนำมาบริโภค อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ ... นิชรา บุญตะนัย ผู้สื่อข่าวสุขภาวะ ภาคอีสาน สานใจสานพลัง รายงานจาก จ.อุบลราชธานี ค่ะ