เลย - ตัวแทนชาวบ้านตำบลเขาหลวง อ.วังสะพุงบุกยื่นหนังสือผู้ว่าฯ เลย สั่งยับยั้งการขอใช้พื้นที่ป่าสงวนเพื่อขยายเหมืองทองของบริษัททุ่งคำ เผยชาวบ้านวิตกผลกระทบจากบ่อไซยาไนด์พังทลาย ด้านผู้ว่าฯ เลยรับปาก สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องพร้อมตัวแทนชาวบ้านเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน

วันนี้ (30 ต.ค.) เวลา 14.00 น. ตัวแทนชาวตำบลเขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย จำนวน 60 คนจาก 6 หมู่บ้านในนามกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด นำโดยนายสมัย ภักมี สมาชิก อบต.เขาหลวง ที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำ ภูทัพฟ้า บ.ทุ่งคำ จำกัด ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดเลยเพื่อยื่นหนังสือต่อนายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย โดยได้เปิดห้องประชุมเพื่อรับทราบข้อมูลจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ

กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยใช้อำนาจยับยั้งการขอใช้พื้นที่ป่าสงวนเพื่อขยายเหมืองในพื้นที่ใหม่ และการทำประชาคมของเหมืองทองที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ณ ศาลาประชาคมจังหวัดเลย เนื่องจากที่ผ่านมาการทำประชาคมของเหมืองทองไปจัดทำในท้องที่ตำบลหนองงิ้ว ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ได้รับผลกระทบ ส่วนคนที่ได้รับผลกระทบไม่มีส่วนได้รับรู้แต่อย่างใด

นายสมัย ภักมี แกนนำ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดได้รับแจ้งจากอาสาสมัครเฝ้าระวังของกลุ่มว่า ได้เกิดการพังทลายของผนังบ่อกักเก็บกากแร่ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด เมื่อวันที่ 25 ต่อเนื่องถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2555 เป็นบริเวณกว้าง มีน้ำจากบ่อดังกล่าวรั่วไหลออกมาและยังไม่มีหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบ

กลุ่มฯ เห็นว่าการพังทลายของผนังบ่อกักเก็บไซยาไนด์ (กากแร่) มีน้ำรั่วไหลออกนอกบ่อนั้นเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียงจำนวน 6 หมู่บ้าน อีกทั้งจะมีปัญหากับพื้นที่การเกษตร น้ำจากบ่อดังกล่าวอาจไหลลงสู่ลำห้วยและไหลลงแม่น้ำเลยต่อไป

นายสมัยกล่าวอีกว่า การพังทลายของผนังกักเก็บกากแร่นั้นน่าจะมีสาเหตุมาจากการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน สร้างไม่ถูกแบบแปลนตั้งแต่ต้น ก่อนจะดำเนินการเปิดเหมือง ซึ่งลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน แต่ยังไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบใดสามารถเข้าไปตรวจสอบได้

ดังนั้น กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดจึงร้องเรียนให้ท่านผู้ว่าฯ ทำการสอบสวนและตรวจสอบการก่อสร้างผิดจากแบบแปลนและตรวจสอบการพังทลายของบ่อกักเก็บกาก ในรูปแบบการมีส่วนร่วมของประชาชน หรือตั้งคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการลงโทษหากพบการกระทำความผิด

ด้านนายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า จะมอบหมายให้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย ร่วมกับอุตสาหกรรมไปดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน และจะให้กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดเข้าไปมีส่วนร่วมในการนี้ด้วย ซึ่งเป็นที่พอใจของผู้เดือดร้อนและพากันเดินทางกลับบ้านรอคำหวานต่อไป

จากผู้จัดการออนไลน์