ประชุมสภาผู้บริโภคจังหวัดเชียงราย “ 22 ปีแห่งการรอคอย…กฎหมายการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค”

เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 30 เมษายน 2562 ณ. ห้องประชุมอาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า 90 ปี เทศบาลนครเชียงราย ได้จัดให้มีการประชุมของสภาผู้บริโภคจังหวัดเชียงรายขึ้น ในหัวข้อ “ 22 ปีแห่งการรอคอย…กฎหมายการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค” โดยมีนายสนั่น เนตรสุวรรณ ประธานสภาผู้บริโภคจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานต่อ นายสง่า บัวระดก หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงราย ซึ่งให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมฯ พร้อมทั้งบรรยายพิเศษ “ ผู้บริโภคจะได้อะไร..?จากการมีกฎหมายการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค” ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 50 คน จาก 36 องค์กรเครือข่ายฯ อาทิ สมาคมประชาสังคมเพื่อการพัฒนา – เครือข่ายบ้านมั่นคงหลากหลายตำบล – เครือข่ายผู้ติดเชื้อ เอชไอวี จังหวัดเชียงราย – เครือข่ายชาติพันธ์เชียงราย – เครือข่ายแรงงานนอกระบบจากหลายตำบล และหลากหลายจากภาคีเครือข่ายฯ มีการสร้างความเข้าใจต่อเนื้อหาสำคัญของ พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค และมีการเสวนามุมมองต่อกฎหมายการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค โดยตัวแทนจาก สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดเชียงราย – ตัวแทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย – ตัวแทนของสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงราย – ตัวแทนของสถาบันวิชาการ มีนายธนชัย ฟูเฟื่อง ผู้อำนวยการสมาคมประชาสังคมเพื่อการพัฒนา และผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดเชียงราย บรรยายและเป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ซึ่งการประชุมสภาผู้บริโภคฯ ในครั้งนี้ได้ตระหนักถึงความสำคัญ “ สิทธิของผู้บริโภค.” ปัญหาที่ผู้บริโภคต้องเผชิญอยู่ทุกวันในเรื่องของสินค้าและบริการอื่นๆ ถึงแม้จะมีหน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคมากมาย นอกจากนี้ยังมีตัวแทนภาคธุรกิจ ภาคเอกชน ที่คอยเป็นปาก เป็นเสียงรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ แต่ในฝั่งของผู้บริโภค ยังไม่มีตัวแทนระดับประเทศที่เป็นทางการ จึงทำให้เกิดแนวคิด “ องค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ” และจึงเป็นที่มาของกฎหมาย “พระราชบัญญัติการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค” ตลอด 22 ปี (พ.ศ.2540 – 2562) องค์กรผู้บริโภคและภาคีเครือข่ายผู้บริโภค ได้ร่วมต่อสู้กันมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่รัฐบาล ก็ยังคงเจตจำนงที่จะให้มีตัวแทนของผู้บริโภคในระดับประเทศ คอยเป็นปาก เป็นเสียงให้กับผู้บริโภค และมีอำนาจต่อรองกับภาครัฐและภาคธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่าแม้จะมีกฏหมายเกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีภารกิจที่ต้องดำเนินต่ออีกหลายอย่าง ต้องช่วยกัน รวมตัวและรวมพลังกันในการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค ให้มีความเข้มแข็ง และทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงทำให้ผู้บริโภคตระหนักในสิทธิของตนเอง ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตนเองมากขึ้น และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาองค์กรผู้บริโภคในภูมิภาคต่างๆ ให้มีคุณภาพ เพื่อยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค จากระดับพื้นที่ในชุมชน ไปสู่ระดับประเทศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป และปิดการประชุมสภาผู้บริโภคอย่างสมบูรณ์ ในเวลา 12.00 น.