ปปช.ชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 สร้างความเข้มแข็งภาคประชาชน “รุก...ลุย...เข้ม...ทุจริต” ตามยุทธศาสตร์ชาติ.

ความเข้มแข็งของภาคประชาชน คือ หัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น

เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 29 มกราคม 2562 สำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดเชียงราย ร่วมกับชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงราย ดำเนินกิจกรรมการประชุมใหญ่ร่วมระหว่าง สปจ โค้ชฯ และชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดเชียงราย” การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ณ.ห้องประชุมราชพฤกษ์ โรงแรมทีคการ์เด้นสปา รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานเปิด นายณภัทร เตโช ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช. ประจำจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมภาคประชาชนในส่วนสมาชิกแกนนำและคณะกรรมการชมรมฯ หน่วยงานภาคีเครือข่าย ประมาณ 150 คน มีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งภาคประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ในการกระตุ้นความตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบจากการทุจริต การเฝ้าระวังปัญหาการทุจริตโดยภาคประชาชนในระดับพื้นที่

ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นปัญหาที่สั่งสมมานานและถือเป็นศัตรูร้ายที่ส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติในทุกด้าน ที่ผ่านมาสังคมไทยได้เกิดวัฒนธรรมที่ยอมรับการทุจริต ทั้งการซื้อขายตำแหน่ง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ การจัดซื้อจัดจ้าง การให้สิทธิประโยชน์ รวมทั้งการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายในการเอื้อประโยชน์ต่อกัน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้กำหนดให้การป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นวาระสำคัญเร่งด่วนของชาติ และเป็นเรื่องที่ต้องแทรกอยู่ในการปฏิรูปทุกด้าน โดยภาครัฐต้องเริ่มต้นพัฒนาหน่วยงานด้วยการสร้างความสะอาดและความโปร่งใสในการดำเนินงาน โดยเฉพาะงานบริการที่มีผลกระทบต่อสิทธิและความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนการประกอบกิจการของภาคธุรกิจ

เมื่อภายในหน่วยงานราชการมีความสะอาดโปร่งใสแล้ว ก้าวต่อไปจะมุ่งเน้นไปที่ภายนอกหน่วยงานราชการ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบและเฝ้าระวังการดำเนินงานของภาคราชการ เพื่อให้ผลลัพธ์ของการดำเนินงานตกอยู่กับทุกภาคส่วน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างการรับรู้และต้องช่วยกันอย่างจริงจัง เพื่อให้การต่อต้านการทุจริตกลายเป็นวัฒนธรรมของสังคมและประเทศชาติในอนาคตต่อไป ภาคประชาชนในนามของชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงราย มีนายมานพ ชัยบัวคำ เป็นประธานชมรม ก่อตั้งมาใกล้จะครบ 1 ปี มีสมาชิกหลายร้อยคนกระจายอยู่ในทุกพื้นที่อำเภอ ที่สำคัญตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบ 1 ปี ชมรมฯ ได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงราย และหลายภาคส่วน ดำเนินงานในภารกิจการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในพื้นที่จังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง ทั้งการแจ้งเบาะแสข้อมูลทุจริต การเสริมสร้างค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต และการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับชาวเชียงราย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งว่าการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นที่ยั่งยืน ต้องเริ่มต้นจากประชาชนในฐานะเจ้าของเงินภาษีที่จะไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉย ต่อการทุจริตทุกรูปแบบ

ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ.2560-2564) ได้มีการวิเคราะห์ภาพอนาคตของประชาชนและสังคมไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้าว่า ประชาชนจะมีความตื่นตัวต่อการทุจริตมากขึ้น ให้ความสนใจต่อข่าวสารและตระหนักถึงผลกระทบของการทุจริตที่มีต่อประเทศมากขึ้น มีการแสดงออกซึ่งการต่อต้านการทุจริตทั้งในชีวิตประจำวันและการแสดงออกผ่านสื่อสาธารณะและสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ได้รับการกล่อมเกลาทางสังคมว่าการทุจริตเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย ผิดจริยธรรมทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมประชาชนจะเริ่มเรียนรู้การปรับเปลี่ยนฐานความคิดโดยสามารถแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม มีวัฒนธรรมทางสังคมที่ตั้งอยู่บนฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความละอายต่อการทุจริต ประพฤติมิชอบ และไม่ยอมให้ผู้อื่นกระทำการทุจริตอันส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสังคมส่วนรวม

เพื่อให้ภาคอนาคตดังกล่าวสามารถบรรลุผลได้จริง สำนักงาน ป.ป.ช. ในฐานะที่เป็นองค์กรหลักในการป้องกันและปราบปรามทุจริตจึงได้ส่งเสริมสนับสนุนการปรับประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ประกอบกับหลักการต่อต้านการทุจริตอื่น ๆ เพื่อสร้างฐานคิดจิตพอเพียงต้านการทุจริตให้เกิดขึ้นเป็นพื้นฐานความคิดของปัจเจกบุคคล โดยการหนุนเสริมให้ภาคประชาชนเกิดการรวมกลุ่มกันในนาม “ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต”

สำหรับชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงราย เริ่มดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 โดยประชาชนชาวเชียงราย ที่มีจิตอันเป็นสาธารณะและตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบจากการทุจริต ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกรวมทั้งสิ้น 466 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการชมรม จำนวน 27 คน แกนนำสมาชิกชมรมในระดับอำเภอ จำนวน 100 คน และสมาชิกชมรมทั่วไป จำนวน 339 คนและในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา ชมรมฯ ได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานองค์กรภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนงานที่เป็นรูปธรรมหลาย เรื่อง อาทิ การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตให้แก่ประชาชนชาวเชียงรายทุกเพศวัย การสัญจรให้ความรู้ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการเพื่อช่วยกันสอดส่องมิให้มีการทุจริต ตลอดจนการแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือร้องเรียนโครงการกิจกรรมต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ที่มีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าอาจเกิดการทุจริต เป็นต้น ดังนั้นวันนี้ จึงเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงาน ปปช. ประจำจังหวัดเชียงราย กับ ชมรมฯ อีกทั้งเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ของชมรมด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรึกษาหารือทิศทางการดำเนินงานของชมรมในปี 2562 “เพราะเราจะไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉย” ต่อการทุจริตทุกรูปแบบอีกต่อไป.