ดร. สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดกิจกรรม วอคกิ้ง ชาเลนท์ 2018 (Walking Challenge 2018 ) ชวนเพื่อน ก้าวด้วยใจ ไปด้วยกัน ภายใต้โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยใช้สายรัดข้อมือ ซึ่งศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่นจัดขึ้น นพ.ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 กล่าวว่าทางศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่นมีนโยบาบายส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี โดยรณรงค์ให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางร่างกายให้มากขึ้นการจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชน รณรงค์ให้ประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางกายด้วยการเดิน และเป็นต้นแบบขององค์กรในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน ซึ่งปัจจุบันคนไทยออกกำลังกายโดยการเดินหรือกิจกรรมทางกายราว 2.8 ชั่วโมงต่อวันซึ่งถือว่าน้อยมากทำให้คนไทยมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งบางชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากร การเดินที่มากขึ้นจะเป็นการออกกำลังกายที่เกิดประโยชน์มากมาย ช่วยสร้างความแข็งแรงของหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรค ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยป้องกันสมองเสื่อม สร้างกล้ามเนื้อกระชับหน้าท้องและสะโพก ช่วยเพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกาย การเดินทำให้มีความสุข ร่างกายหลั่งโฮโมนเอ็นโดรฟินทำให้รู้สึกดี ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นก็ได้เชิญชวนชาวขอนแก่นออกมาเดินกันเยอะมากขึ้นและปัจจุบันในตัวเมืองขอนแก่นได้มีสวนสาธารณะหลายแห่งที่ภาครัฐสร้างไว้ให้ทุกคนได้เดินได้วิ่งออกกำลังกายเป็นปอดของเมืองหลายแห่งด้วย
นวัตกรรม ชุดป้องกันการติดเชื้อทางอากาศสำหรับเตียงผู้ป่วย’.

นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรงพยาบาลมีผู้ป่วยจำนวนมาก อาจมีการแพร่เชื้อทางอากาศ ซึ่งจากปัญหาของอนุภาคขนาดเล็กหรือฝุ่นละอองต่างๆ ที่ปนเปื้อนกระจายอยู่ในอากาศอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างปัญหาให้กับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือภูมิแพ้ต่างๆ รวมทั้งผู้ป่วยที่ต้องป้องกันการติดเชื้อของบาดแผล เช่น น้ำร้อนลวก หรือไฟไหม้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางอากาศ ซึ่งผู้ป่วยดังกล่าวต้องการสภาวะแวดล้อมในการรักษาที่สะอาดเป็นพิเศษในโรงพยาบาล การป้องกันลดการติดเชื้อทางอากาศในโรงพยาบาลจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้เล็งเห็นความสำคัญของการควบคุมอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่กระจายเชื้อทางอากาศ จึงได้จัดทำนวัตกรรม “ต้นแบบชุดควบคุมป้องกันการติดเชื้อทางอากาศ” โดยออกแบบติดตั้งพัดลมกรองอากาศดูดอากาศผ่านแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (HEPA filter) ซึ่งกรองอนุภาคในอากาศ และติดหลอด UV ฆ่าเชื้อเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าสามารถขจัดเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่กับอนุภาคในอากาศได้
จากนวัตกรรมฯ นี้อากาศที่สะอาดปราศจากเชื้อโรค ช่วยลดปริมาณอนุภาคในอากาศ ทำให้ความเสี่ยงการติดเชื้อทางอากาศในโรงพยาบาลลดลง โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้นำต้นแบบชุดป้องกันการติดเชื้อทางอากาศสำหรับเตียงผู้ป่วย ไปทดสอบใช้กับ
1.โรงพยาบาลแม่สอด
2.โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
3.โรงพยาบาลแม่ระมาด จังหวัดตาก
4.โรงพยาบาลคลองใหญ่ จังหวัดตราด
5.โรงพยาบาลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
6.โรงพยาบาลบ้านฉาง จังหวัดระยอง
และ 7.สถาบันบำราศนราดูร