นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ “ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ นอกสถานที่ครั้งที่ 8/2561”(ครม.สัญจร) ตามความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรีที่จังหวัดเชียงราย

จังหวัดเชียงราย ต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะฯ พร้อมนำเสนอโครงการเพื่อพัฒนาจังหวัด 6 ด้าน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 2 และตรวจราชการระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคม 2561

เมื่อบ่ายวันที่ 29 ตุลาคม 2561 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะฯ ได้ลงพื้นที่ที่บ้านเมืองรวง หมู่ที่ 5 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นชุมชนท่องเที่ยวโอท๊อปนวัตวิถี ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน เป็นตัวแทนของจังหวัดเข้าร่วมประกวดในระดับประเทศพร้อมพบปะให้กำลังใจผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์แพทย์ศาสตร์ชั้นคลีนิค โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จากนั้นเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ผู้สร้างเมืองเชียงราย และในวันที่ 30 ตุลาคม 2561 เวลา 07.30 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะฯ ได้เดินทางไปที่วัดพระแก้ว (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง เชียงราย ได้เข้าสักการะพระแก้วหยก พระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล (พระแก้วมรกต) ที่หอพระหยก เข้าสักการะพระประธานพระเจ้าล้านทอง ที่พระอุโบสถ นมัสการพระธรรมราชานุวัตร (เจ้าคณะภาค 6) เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว ณ วัดพระแก้ว (พระอารามหลวง) หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรีได้เดินทางไปสู่ห้องประชุมแสนหวี หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย โดยบรรยากาศก่อนการประชุมได้เยี่ยมชมนิทรรศการและผลงานเด่นๆของเชียงราย มีกลุ่มนักศึกษาร่วมร้องเพลงสะพาน และตีกลองสะบัดชัยให้การต้อนรับ มีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรชัย มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ พร้อมนำเยี่ยมชมนิทรรศการต่าง ๆ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น ด้วยการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ชาวบ้านในท้องถิ่น หลังจากนั้น เข้าห้องประชุมภายในหอประชุมนานาชาติ 40 ปี ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย เริ่มประชุมอย่างเป็นทางการนอกสถานที่หรือ ครม.สัญจร ครั้งที่ 8/2561 ตามนโยบายต่าง ๆ ในภาคเหนือ ตอนบน 2 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ระหว่าง 26-30 ตุลาคม 2561 จำนวนกว่า 70 พื้นที่ หลังเสร็จสิ้นการประชุมในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าในการเดินทางมาประชุมสัญจรในครั้งนี้ว่า คณะรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ติดตามนโยบาย ในภาคเหนือตอนบนเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและรับทราบปัญหาในพื้นที่ และติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดร่วมมือกันเพื่อความเชื่อมโยงในทุกมิติ โดยภาคเหนือมีศักยภาพด้านธรรมชาติ รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สามารถขับเคลื่อนเพื่อให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น เชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างเมืองหลักและเมืองรอง นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้เสนอ ครม.ให้พิจารณาปรับปรุงระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการปรับปรุงถนนจำนวนกว่า 10 โครงการซึ่ง ครม.ได้รับหลักการเบื้องต้นแล้ว จะดำเนินการตามความเร่งด่วน โดยโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จะดำเนินการจัดทำ TOR หรือข้อกำหนดของผู้ว่าจ้างในปี 2562 เริ่มก่อสร้างในปี 2563 และสามารถใช้บริการได้ในปี 2565 ส่วนการบริหารจัดการน้ำให้มีการเพิ่มการกักเก็บน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ดังเช่น พื้นที่กักเก็บน้ำกว๊านพะเยา และแหล่งน้ำอื่น ๆ ให้เพิ่มประตูระบายน้ำให้สูงขึ้น เพื่อสามารถรองรับและกักเก็บน้ำได้ปริมาณมากขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ ส่วนการพัฒนาระบบสาธารณสุข มุ่งเน้นให้จังหวัดพัฒนาศักยภาพในการรักษาโรคมะเร็ง ขณะนี้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มีศูนย์รังสีรักษา จะเป็นศูนย์ความเป็นเลิศ ทางการแพทย์ด้านการรักษาโรคมะเร็งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและประเทศเพื่อนบ้าน สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับการฉายรังสีรักษาที่ศูนย์มะเร็งลำปาง ได้ถึงปีละ 13 ล้านบาท โดยจะเร่งให้มีอุปกรณ์เครื่องมือมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกลุ่มจังหวัด ติดตามการดำเนินงานที่เป็นผลจากการประชุมในวันนี้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและเป็นรูปธรรม พร้อมกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงภาคเอกชนและท้องถิ่น จะต้องคำนึงถึงการพัฒนาสร้างการรับรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลในเชิงประจักษ์ด้วย เพื่อประเทศชาติ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตลอดไป.