สสจ.เชียงราย เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข (EOC) พร้อมช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีและโค้ชที่ติดในถ้ำหลวง

สสจ.เชียงราย เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข (EOC) เตรียมความพร้อมช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีและโค้ชที่ติดในถ้ำหลวง ได้จัดเตรียมทีมแพทย์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตั้งโรงพยาบาลสนาม ระบบส่งต่อ พร้อมให้ความช่วยเหลือทันทีหลังออกจากถ้ำ

นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่าจากกรณีที่นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีพร้อมผู้ฝึกสอน จำนวน 13 คน ได้ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่ 23 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ระดมสรรพกำลังเร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายอย่างเต็มกำลังความสามารถอยู่นั้น ในส่วนของหน่วยงานสาธารณสุขได้วางแผนเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงทีหลังจากที่ออกจากถ้ำ โดยเปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข (EOC) “ช่วยเหลือ 13 ชีวิต ติดในถ้ำหลวง” พร้อมกับประชุมและสั่งการให้ทีมต่างๆ ได้จัดเตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ ให้ดีที่สุด โดยมีการดำเนินการดังนี้

1. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข (EOC) “ช่วยเหลือ 13 ชีวิต ติดในถ้ำหลวง”
ณ อาคารสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย โดยจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารในการประสานงาน รายงานการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานความก้าวหน้า เวลา 11.00 น. ของทุกวัน

2. ให้บริการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข
- เตรียมความพร้อมบุคลากรด้านการแพทย์ แพทย์เฉพาะทาง ยา เวชภัณฑ์ เซรุ่มพิษงู ทรัพยากรด้านการแพทย์ และเตรียมทีมปฏิบัติการ ทีมแพทย์ฉุกเฉิน ทีมสุขภาพจิต ทีมเฝ้าระวังและสอบสวนโรค ทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม จากโรงพยาบาลทุกแห่งพร้อมทั้งสำรองเตียงไว้รองรับผู้ป่วย
- จัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินในพื้นที่ จัดบุคลากรสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็ว หากมีผู้ป่วยฉุกเฉินสามารถลำเลียงผู้ป่วยส่งได้ทั้งทางบกและทางอากาศยานโดยมีจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ที่ค่ายเม็งรายมหาราช

3. จัดทีมผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ (ทีม MCATT) ช่วยผู้ประสบภาวะวิกฤต หมุนเวียนสับเปลี่ยนครบ 3 เวร (เช้า บ่าย ดึก) เพื่อให้การเยี่ยวยาด้านจิตใจแก่ญาติและประชาชน

4. จัดทีมสนับสนุนจัดเตรียมรองเท้าบู๊ทสำหรับให้เจ้าหน้าที่สวมใส่ขณะเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ และจัดพนักงานขับรถพร้อมยานพาหนะ 4 WD รับ-ส่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกวัน
5. เตรียมความพร้อมด้านการสื่อสารการประสานงานทาง กรุ๊ปไลน์ EOC ระหว่างจังหวัด PHEM ระหว่างอำเภอ การรายงานผลการปฏิบัติงานประจำวันของหน่วยงานด้านการแพทย์เวลา 13.00 น. ของทุกวัน โดยตั้งแต่วันที่ 24 -27 มิถุนายน 2561 มีผู้มารับบริการตรวจรักษา จำนวน 17 คน บริการให้ยา จำนวน 61 คน ดูแลด้านจิตใจ จำนวน 105 คน และส่งต่อผู้ป่วยไปรับบริการโรงพยาบาลแม่จัน จำนวน 3 คน ขณะรายงานข่าวนี้ ทีมงานนักข่าวสุขภาวะ ก็ยังเฝ้าเกาะติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดอย่างต่อเนื่อง

นายทศเทพ ยังได้ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนที่กำลังติดตามข่าวสารทางสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่องมานั้น อาจทำให้มีปัญหาเรื่องการล้าของสายตา นอนไม่หลับ เกิดความเครียด ส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ดังนั้นจึงขอให้รักษาสุขภาพของตนเอง ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกกินอาหารที่สุกสะอาด งดเสพข่าวสารตามสื่อต่างๆ ที่มีระยะเวลายาวนาน และให้ทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย เพื่อเป็นการผ่อนคลาย หากมีปัญหาสามารถโทรปรึกษาที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
สุนี บุญอนันต์ นักข่าวสุขภาวะ ภาคเหนือ รายงาน