3 มีนาคม 2560 เวลา 08.30 - 16.00 น. ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรโรงพยาบาลขอนแก่นจัดกิจกรรม “เวทีสื่อสารสาธารณะ พร้อมทั้งส่งเสริมความรู้ทางวิชาการในการดูแลผู้ด้อยโอกาส คนไร้บ้าน และคนพิการ จังหวัดขอนแก่น” โดยมี นายแพทย์วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ให้เกียติเป็นประธานในพิธี นายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ร่วมเป็นเกียรติในงาน กล่าวรายงานโดย แพทย์หญิงบัวกาญจน์ กายาผาด ประธานศูนย์ประสานงานการพัฒนาระบบดูแล คนพิการครบวงจร
วัตถุประสงค์เพื่อให้สังคมได้รับรู้ มีความเข้าใจเกี่ยวกับคนไร้บ้านโดยมีภาคีเครือข่ายของภาครัฐ ประชาสังคม เอกชน ร่วมส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการวางแผนช่วยเหลือคนไร้บ้านโดยผลักดันให้เกิดศูนย์ประสานงานคนไร้บ้าน โดยมีตัวแทนคนไร้บ้านทำงานเชื่อมต่อกับกลุ่มคนไร้บ้าน ให้คนไร้บ้านที่เป็นคนไทย มีบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารรับรอง เข้าถึงซึ่งบริการขั้นพื้นฐานแห่งรัฐ พัฒนาฐานข้อมูลคนพิการในชุมชน วางแผนให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ค้นหาคนพิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมเป็นองค์รวมมีเครือข่ายแกนนำคนพิการที่สามารถประสานงานได้ในระดับตำบล, อำเภอ เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพของคนพิการและครอบครัว และเพื่อพัฒนาชุมชนต้นแบบ ในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ
ซึ่งแพทย์หญิงบัวกาญจน์ กายาผาด ประธานศูนย์ประสานงานการพัฒนาระบบดูแล คนพิการครบวงจร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในการจัดกิจกรรมดังกล่าวด้วย
เพิ่มงบหลักประกันสุขภาพ 170,000 ล้านบาท ในปี 61 ยืนยันมีบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติงบประมาณสำหรับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สป.สช.) ประจำปีงบประมาณ 2561 วงเงิน 172,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7,088 ล้านบาท ค่าบริการรายหัว 3,197 บาทต่อราย เพิ่มขึ้น 87.43 บาท และถือเป็นการยืนยันว่าไม่ได้มีการยกเลิกบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค โดยเพื่อเป็นการลดภาระงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในระยะยาวเห็นควรให้ดำเนินการ โดยให้กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญและพิจารณาแนวทางการบูรณาการทำงานด้านการป้องกันโรคร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประเมินผลสัมฤทธิ์ได้ โดยเฉพาะการป้องกันโรคที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นจำนวนมากในระยะยาว เช่น โรคไต
ส่วนกรณีค่าบริการสาธารณะสุขระดับปฐมภูมิที่มีแพทย์ประจำครอบครัว ซึ่งเป็นการบริการเชิงรุกเพื่อเน้นการดูแลป้องกันก่อนการเจ็บป่วย กระทรวงสาธารณสุขควรร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพิจารณาแนวทางว่าจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยในระยะยาวได้อย่างไร