เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560 เวลา 09.00 น.-12.00 น. ณ ห้องเชียงรุ้ง โรงแรมเวียงอินทร์ จ.เชียงราย นายศักดิ์ชาย วงศ์กนิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานกล่าวเปิด โดยมีนายประยุทธ ไกรปราบ รักษาการผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านพัฒนาแหล่งน้ำกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวรายงาน การประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในระดับลุ่มน้ำสาขา ภายใต้โครงการศึกษาและพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการจัดการระบบแหล่งน้ำและทางน้ำธรรมชาติอย่างเหมาะสมและยั่งยืน ในพื้นที่ลุ่มน้ำกกและโขง (ภาคเหนือ) ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำเป็นเจ้าของโครงการ ผู้ร่วมการประชุมประกอบด้วยคณะกรรมการลุ่มน้ำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนผู้สนใจ การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำในระดับรากหญ้า โดยน้อมนำพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานแก่คณะเจ้าหน้าที่ดูแลปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2538 ความว่า “ลิงโดยทั่วไป ถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือก เอาเข้าปากเคี้ยว แล้วนำไปเก็บไว้ที่แก้มก่อน ลิงจะทำอย่างนี้จนกล้วยหมดหวีหรือเต็มกระพุ้งแก้ม จากนั้นจะ ค่อย ๆ นำออกมาเคี้ยวและกลืนกินภายหลัง” ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำได้ทำการศึกษาและพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบแหล่งน้ำและทางน้ำธรรมชาติอย่างเหมาะสมและยั่งยืน เพื่อให้สามารถจัดการจราจรน้ำได้อย่างเป็นระบบ โดยการปรับปรุงลำคลอง และอนุรักษ์ฟื้นฟู/ปรับปรุงหนอง บึงธรรมชาติ ให้ทำหน้าที่เหมือนแก้มลิงที่เก็บน้ำในช่วงน้ำหลาก เพื่อบรรเทาน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนและนำน้ำที่เก็บไว้ไปใช้ในเกิดประโยชน์ทั้งด้านเกษตรกรรม ด้านอุปโภคบริโภคและฟื้นฟูสภาพแหล่งน้ำ
การศึกษาในครั้งนี้กรมทรัพยากรน้ำมีเป้าหมายในการจัดทำแผนหลักการพัฒนา (Master plan) ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการแหล่งน้ำและทางน้ำธรรมชาติอย่างเหมาะสมและยั่งยืน โดยเน้น ให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาและตัดสินใจ ทั้งนี้แผนหลักการพัฒนาดังกล่าวจะประกอบด้วย ทางเลือกในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบแหล่งน้ำและทางน้ำธรรมชาติอย่างเหมาะสมและยั่งยืน แผนที่แสดงการเกิดปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งซ้ำซาก แผนที่เสี่ยงเกิดอุทกภัยและภัยแล้ง แผนที่คุณภาพน้ำในระดับลุ่มน้ำสาขา นอกจากนี้ยังมีการทำแผนผังกรอบความคิดหรือแนวทางในการพัฒนาลุ่มน้ำสาขาครอบคลุมทั้ง 254 ลุ่มน้ำสาขา ซึ่งจะสามารถนำไปปรับใช้ในการจัดทำแผนปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม อันจะส่งผลทำให้การบริหารจัดการระบบแหล่งน้ำธรรมชาติมีแผนงานพัฒนาอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้ง 25 ลุ่มน้ำหลักของประเทศ โดยไม่เกิดความซ้ำซ้อนในเชิงพื้นที่ สามารถบูรณาการร่วมกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแผนพัฒนาระบบเศรษฐกิจการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการขนส่งทางน้ำ การรักษาสมดุลทางระบบนิเวศลำน้ำ/ลุ่มน้ำ ตลอดจนเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการปัญหาการขาดแคลนน้ำ อุทุกภัย และคุณภาพน้ำได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน รวมทั้งการจัดทำแผนที่เส้นทางน้ำ หนอง/บึง ระบบเชื่อมโยง เครือข่ายเส้นทางน้ำ ให้อยู่ในมาตรฐานอ้างอิงเดียวกัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะจัดเก็บในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS) และระบบตัดสินใจ (DSS) นอกจากนั้นจะคัดเลือกพื้นที่ทุกภาคที่เหมาะสมและประชาชนให้การยอมรับเป็นโครงการนำร่อง จำนวน 28 ระบบโครงข่าย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพื้นที่ต่อไป สุนี บุญอนันต์ นักข่าวสุขภาวะ จ.เชียงราย รายงาน