ห้องประชุมกาสะลองคำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย หน่วยงานภาคีเครือข่าย ภาคประชาชน นักเรียนนักศึกษา ในจังหวัดเชียงรายเปิดตัวโครงการ “พี่จ๋า..หนูขอ” เพื่อร่วมกันลดอุบัติเหตุทางถนนให้กับจังหวัดเชียงราย ก่อนจะเริ่มใช้มาตรการในทุกรูปแบบเพื่อดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องชาวเชียงรายอย่างเข้มข้น จริงจัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป
นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2553 เห็นชอบให้ปี 2554 – 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน (Decade of Action for Road Safety) เพื่อบูรณาการการดำเนินงานจากทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ต่ำกว่า 10 คน ต่อประชากรหนึ่งแสนคน ใน พ.ศ.2563 และถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการให้เข้มข้นในทุกพื้นที่ ประกอบกับสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุทางถนนในปัจจุบัน อัตราผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มสูงขึ้น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2558 เห็นชอบ ข้อเสนอเพื่อขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จังหวัดเชียงรายได้จัดทำโครงการ “พี่จ๋า .. หนูขอ” เพื่อสร้างความตระหนักและความร่วมมือร่วมใจของชาวเชียงราย ร่วมกันรักษาวินัยจราจร และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงรายลดจำนวนความสูญเสียลงได้
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย บูธนิทรรศการ ด้านความปลอดภัยทางท้องถนน การประกาศวาระจังหวัดเชียงราย ด้านความปลอดภัยทางท้องถนนตลอดทั้งปี ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มีประกาศจังหวัดเชียงราย ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2559 เรื่อง วาระจังหวัดเชียงราย ด้านความปลอดภัยทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางถนน โดยให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันคือ
1. ให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ ดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
2. ให้ทุกภาคส่วนร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสาธารณะต่างๆ ส่งเสริมให้ประชาชนทราบและปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน และสร้างความตระหนักในปัญหาอุบัติเหตุทางถนน
3. ให้หน่วยงานราชการทุกภาคส่วนเป็นต้นแบบ ในการสร้างจิตสำนึกและวัฒนธรรมความปลอดภัยโดย ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย มีวินัยจราจร
4. ให้ทุกหน่วยงาน สถาบันการศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและความสำคัญของปัญหาอุบัติเหตุทางถนน เพื่อสร้างจิตสำนึกและวัฒนธรรมความปลอดภัย
5. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับการจราจร โดยการลดจุดเสี่ยง จุดอันตราย ปรับปรุงป้ายแจ้งเตือนสัญญาณไฟจราจร ไฟส่องสว่าง เพื่อให้มีทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่
6. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบังคับใช้กฎหมาย ดำเนินการป้องปราม จับกุมผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรการ 10 รสขม (1 ร ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 ส ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร/ไม่ขับขี่รถย้อนศร 3 ข คาดเข็มขัดนิรภัย / พกใบขับขี่ / ไม่แซงในที่คับขัน และ 4 ม เมาไม่ขับ / สวมหมวกนิรภัย / ไม่ดัดแปลงมอเตอร์ไซด์ / ไม่ใช้มือถือขณะขับขี่)
7. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการแพทย์และสาธารณสุข เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อลดการเสียชีวิตและลดความพิการจากอุบัติเหตุทางถนน สุนี บุญอนันต์ นักข่าวสุขภาวะ จ.เชียงราย รายงาน กังวาล ปริมา ภาพ – ข่าว