วันที่ 22 สิงหาคม 2559 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 7 ขอนแก่น จัดประชุมเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาเครือข่ายหลักประกันสุขภาพด้านคุ้มครองสิทธิใน องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
นายแพทย์ปรีดา แต้อารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 7 ขอนแก่น นำทีมเจ้าหน้าที่ สปสช.เขต 7 ขอนแก่น จัดประชุมเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาเครือข่ายหลักประกันสุขภาพด้านคุ้มครองสิทธิใน องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการให้บริการข้อมูลสิทธิประโยชน์ คำแนะนำ การใช้บริการรับเรื่องร้องเรียนและประสานงานแก้ไขปัญหา และคุ้มครองสิทธิให้แก่ประชาชนผู้รับบริการ ในพื้นที่ สปสช. เขต 7 ขอนแก่น และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการคุ้มครองสิทธิประชาชน ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาล
โดยมีผู้บริหารและผู้รับผิดชอบงานด้านสาธารณสุข และงานรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ จากเทศบาลเมือง และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเข้าร่วมประชุมจำนวน 14 แห่ง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

วันที่ 29 สิงหาคม 2559 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต ๗ ขอนแก่น จัดประชุมพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ในส่วนผู้แทนศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เครือข่ายสมัชชาสุขภาพ ณ โรงแรมต้นหว้ารีสอร์ท จ.ขอนแก่น โดย นายแพทย์ปรีดา แต้อารักษ์ ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 7 ขอนแก่นได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมบรรยายในหัวข้อ "ประชาชน กับ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่"โดยวัตถุประสงค์ในการจัดประชุมในครั้งนี้เพื่อเสริมศักยภาพคณะกรรมการกองทุนฯ ในส่วนผู้แทนศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน ให้เกิดการรับรู้การบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นและเพื่อสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ในการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนากองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นให้กับคณะกรรมการกองทุนฯ ในส่วนผู้แทนศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน กลุ่มพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ ๔ จังหวัด คณะกรรมการกองทุนฯ ในส่วนผู้แทนศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน จำนวน ๔๓ คน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สปสช.เขต ๗ ขอนแก่น จำนวน ๕ คน และวิทยากร จำนวน ๒ คน รวมทั้งสิ้นจำนวน ๕๐ คน