สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ พบกันอีกครั้งกับผมรพินทร์ ยืนยาว ผู้สื่อข่าวสุขภาวะภาคอีสานอุบลราชธานี วันนี้ผมพาท่านผู้ฟังไปเยี่ยมบรรยากาศของเปิดพื้นที่เรียนรู้โปรแกรมนักสานพลังปี ๕๙ ภาคอีสาน
เมื่อวันที่ ๒๕ - ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ณ โรงแรมวาลีวัลเล่ย์รีสอร์ท อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ทางสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ หรือ สช. ร่วมมือกับสถาบันพระบรมราชชนก มูลนิธิหมออนามัย โดยวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรจังหวัดขอนแก่น และเครือข่ายสมัชชาสุขภาพ ๒๐ จังหวัดอีสาน นักสานพลังรุ่นที่ผ่านมา ปี ๕๕ - ๕๘ มาช่วยกันในการจัดกิจกรรมเปิดพื้นที่ให้ตัวแทนเครือข่ายสมัชชาสุขภาพทั้ง ๒๐ จังหวัดจำนวนกว่า ๕๖ คน ได้เข้ามาเรียนรู้แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ในการขับเคลื่อนงานสมัชชาสุขภาพในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การขยายผลและการพัฒนากลไกคณะทำงานสมัชชาสุขภาพจังหวัดให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เกิดความพร้อมในการขับเคลื่อนกระบวนการสมัชชาสุขภาพและเครื่องมือต่างๆตาม พรบ.สุขภาพแห่งชาติ อันได้แก่ เครื่องมือธรรมนูญสุขภาพ และเครื่องมือการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ หรือ CHIA
ในการนี้ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มาเปิดโลกกระทัศน์ในการขับเคลื่อนงานสมัชชาสุขภาพ ในหัวข้อเรื่อง การอภิบาลระบบ กับนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ซึ่งในวันแรกให้ผู้เข้าร่วมเกิดความรู้จักกันมากขึ้น คุ้นเคย ซักถามการใช้ชีวิต หน้าที่ทำงาน จนทำให้ผู้เข้าร่วมคุ้ยเคยลักษณะของกันและกัน ต่อด้วยการสร้างความคาดหวังและการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน การมองถึงการกำหนดการเรียนรู้ในโปรแกรม การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ การกำหนดเป้าหมายชีวิตในการทำงานในด้านนี้ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ขยับมาที่กิจกรรมปฏิสัมพันธ์กลางแจ้ง Walk Rally ทำให้ผู้เข้าร่วมมีความเหนียวแน่นในการสร้างความรู้จักคุ้นเคยกันมากขึ้น การรู้จักในการลดตัวเอง การช่วยเหลือคนอื่น การวางแผนในการทำงาน ความสามัคคีในกลุ่ม การทำงานเป็นทีม และการตรงต่อเวลา
ตื่นเช้ามาในวันที่สามของการเรียนรู้ วันนี้ผู้เข้าร่วมได้รู้จักโปแกรมนักสานพลังมากขึ้น ด้วยท่านผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนปฏิบัติการพื้นที่ คุณสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล มาให้ความกระจ่างในการเรียนรู้แบบนักสานพลัง ทำไมเราต้องสานพลังเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายในพื้นที่ แล้วนักสานพลังจะทำหน้าที่อะไรบ้าง เป็นการเปิดมุ่งมองในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้ง ๔ Core Module ทำให้ผู้เรียนรู้มีความรู้สึกเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้นนำไปสู่การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็นที่มีความแตกต่างกันมากขึ้น เพิ่มเติมด้วยการให้ผู้เข้าร่วมรู้จักกับ ๓ เครื่องมือหลักตาม พรบ.สุขภาพแห่งชาติได้อย่างลึกซึ้ง ได้แก่ กระบวนการสมัชชาสุขภาพพื้นที่ ธรรมนูญสุขภาพพื้นที่ และการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพของชุมชน โดยทีมงานจากสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้จักเครื่องมือตามพรบ.สุขภาพมากยิ่งขึ้นพร้อมการเรียนรู้จากพื้นที่ต้นแบบกับเครื่องมือต่างๆ เช่น ธรรมนูญสุขภาพตำบล จากนายกสมาน เทศมนตรีตำบลโคกสว่าง
ต่อจากนั้นขยับมาที่การรู้จักศักยภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น การเรียนรู้คุณลักษณะหลักของคณะทำงานคือ ๕ ตัวจี้ด ได้แก่ นักประสาน นักจัดการ นักยุทธศาสตร์ นักวิชาการ และนักสื่อสาร ทั้ง ๕ ตัวจี๊ดมีการทำหน้าที่อย่างไร มีข้อดี ข้อด้อยอย่างไร และจะมีการเอื้อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างไร เปรียบเสมือนผู้เข้าร่วมอบรมมองดูตัวตนจะเข้ากับตัวจี้ดไหน นำกระบวนการโดย นายพีธากร ศรีบุตรวงษ์ นักสานพลังปี ๕๕ ชวนให้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ต่อจากนั้นนพ.ทวีเกียรติ บุญยะไพศาลเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติมาย้ำการทำหน้าที่ของนักสานพลังมากขึ้น พร้อมเป็นการกล่าวทักทายทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น
พอตกมาถึงตอนเย็นมีการทำกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์กระบวนการ พูดคุยสร้างปฏิสัมพันธ์จากนักสานพลังรุ่นที่ผ่านมาและนักสานพลังรุ่น ๕๙ ให้เป็นบทเรียนในการนำกระบวนการความรู้เครื่องมือต่างๆนำไปขับเคลื่อนงานในพื้นที่ ในรูปแบบภาษาอีสานว่า กินข้าวแล่ง โส่เว้าม่วนกัน หมายถึงการพูดคุยด้วยความสนุกสนาน ขับกล่อมด้วยเสียงเพลงจากตัวแทนนักสานพลังที่มีความสามารถในการร้องเพลง
พอรุ่งเช้าวันที่ ๔ มีการทบทวนการเรียนรู้ร่วมกัน ทบทวนความคาดหวังที่มีการกำหนดไว้ให้มีการความชัดเจนมากขึ้นหลังจากมีการเรียนรู้มาแล้ว ๓ วันที่ผ่านมา และกิจกรรมสุดท้ายคือกิจกรรมการออกแบบและนัดหมายในลงจัดกิจกรรมครั้งที่ ๒ พร้อมกิจกรรมอำลาก่อนจากกัน
นี้ก็เป็นการกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักสานพลังภาคอีสานปี ๕๙ แล้วคอยดูว่า นักสานพลังแต่ละกลุ่มจะมีการเรียนรู้เรื่องอะไร มีความคิดเห็นสำคัญอย่างไร จะได้นำมาเสนอให้ท่านผู้ฟังได้ทราบความคืบหน้าต่อไป
พบกันใหม่ สัปดาห์หน้า กับรพินทร์ ยืนยาว ผู้สื่อข่าวสุขภาวะภาคอีสาน สานใจ สานพลัง สวัสดีครับ

นายรพินทร์ ยืนยาว/ข่าว