สธ.เชียงรายเตือนภัยจากอากาศหนาว เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย
สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายเตือนภัยจากอากาศหนาวเย็น พบ 4 โรคที่เจ็บป่วยได้ง่ายในช่วงฤดูหนาว แนะควรดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และล้างมือบ่อยๆ สามารถป้องกันการเจ็บป่วยได้
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2558 นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธุ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่าจากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยปี 2558-2559 ว่าอากาศหนาวเย็นที่สุดช่วงเดือนธันวาคม-ปลายมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยจะใกล้เคียงกับฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา บนยอดดอย ยอดภู และบริเวณเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ จึงฝากเตือนมายังพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง ขอให้เตรียมรับมือกับโรคที่เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ ได้แก่ โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคอีสุกอีใส และโรคอุจจาระร่วง จากรายงานของงานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ช่วงเดือนตุลาคม 2557 – กุมภาพันธ์ 2558 พบว่าประชาชนชาวจังหวัดเชียงรายป่วยด้วยโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ 608 ราย โรคปอดบวม 2,631ราย โรคอีสุกอีใส 663 ราย และโรคอุจจาระร่วง 13,287 ราย โดยเฉพาะโรคปอดบวม พบมีผู้เสียชีวิต 35 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งพบว่าทั้ง 4 โรคนี้ ประชาชนเจ็บป่วยและได้เข้ารับการรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขมากกว่าฤดูอื่นๆ
ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนช่วงฤดูหนาวปีนี้ จึงได้แนะนำให้ประชาชนควรปฏิบัติตัวได้แก่ การสวมใส่เครื่องนุ่งห่มที่หนาๆ เพื่อรักษาความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย ดื่มน้ำอุ่นๆ เป็นประจำเพื่อช่วยเพิ่มอุณหภูมิและความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายให้พอเหมาะและสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ล้างมือบ่อยๆ และยังฝากเตือนไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครองควรใส่ใจดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถพูดได้ ควรใส่เสื้อผ้าหนาๆ ใส่ถุงเท้า หมวกให้เด็ก ห่มผ้าหนาๆ ให้มากกว่าปกติขณะเด็กนอน ผู้สูงอายุควรดูแลสุขภาพเป็นพิเศษเพื่อลดความเสี่ยงด้วยโรคปอดบวม และผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้และหอบหืดไม่ควรก่อไฟผิง เพราะควันไฟจะระคายเคืองต่อระบบทางเดินลมหายใจจะทำให้มีอาการรุนแรงขึ้น หากมีอาการกำเริบและพ่นยาหรือรับประทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที. สุนี บุญอนันต์ นักข่าวสุขภาวะ จ.เชียงราย รายงาน