ตอนที่ 81 : สสจ.อุบล เตือนระวังโรคไข้หวัดใหญ่

นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางในการป้องกันโรค รวมทั้งค้นหาผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะ กลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลดังนี้ คือกลุ่มที่มีภาวะสูงที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ได้แก่ ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่ติดสุราเรื้อรัง มีโรคประจำตัว หญิงมีครรภ์ ซึ่งอายุครรภ์มากกว่า 3 เดือน บุคคลโรคอ้วน ซึ่งมีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัมหรือ ผู้ที่มีค่า BMI ตั้งแต่ 35 ขึ้นไป ผู้พิการรุนแรงที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ บุคคลอายุตั้ง 6 เดือน – 64 ปี ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจทุกประเภท หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในระหว่างได้รับเคมีบำบัด โรคธาลัสซีเมียที่มีอาการรุนแรง ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ป่วยเบาหวานที่มีโรคแทรกซ้อน ควรรีบมาพบแพทย์ทันที

ปัจจุบัน พบว่าสถานการณ์ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย จำนวน 14,743 ราย เสียชีวิต 11 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 22.8 ต่อแสนประชากร จังหวัดอุบลราชธานี พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ จำนวน 497 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 27.1 ต่อแสนประชากร ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต อำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ อำเภอดอนมดแดง 307.5 ต่อแสนประชากร ( 83 ราย ) อำเภอวารินชำราบ 118.5 ต่อแสนประชากร ( 190 ราย ) และ อำเภอเมืองอุบลราชธานี 42.5 ต่อแสนประชากร ( 93 ราย ) นอกจากนั้นยังได้มีการสั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งให้จัดจุดคัดกรองไข้หวัดใหญ่ที่แผนกผู้ป่วยนอก ( OPD ) และการแจกหน้ากากอนามัย ให้แก่ผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่คนละ 15 – 20 ชิ้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ในภาวะปกติ การใช้ “หน้ากากอนามัย ” มีความสำคัญมากในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ ซึ่งคนที่ไม่สบายจะต้องใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดไปยังผู้อื่น โดยการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่นั้น เกิดจากการที่ผู้ป่วยไอ จาม ซึ่งผู้รับเชื้อจะหายใจเอาฝอยละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เข้าไป เชื้อไวรัสนั้นจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ ผู้ติดเชื้อบางราย อาจได้รับเชื้อเบื้องต้นจาก “ มือ ” โดยการสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยเฉพาะตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ที่มีคนไปใช้บริการจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สถาน บันเทิง และสถานที่แออัดต่าง ๆ แล้วใช้มือแคะจมูก ขยี้ตา หรือหยิบอาหารเข้าปาก ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและผู้ที่รับผิดชอบในสถานที่ดังกล่าว เรื่องการดูแลความสะอาดอุปกรณ์และผิวสัมผัสสาธารณะต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อให้มากเป็นพิเศษ เช่น ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันไดเลื่อน รถเข็นของในห้างสรรพสินค้า ก้านชักโครก ก๊อกน้ำ โต๊ะ เก้าอี้ ไมโครโฟนร้องเพลง ฯลฯ โดยต้องเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำผสมผงซักฟอก และอาจติดตั้งแอลกอฮอล์เจลล้างมือไว้ตามประตูเข้า-ออก โซนร้านอาหาร เพื่อบริการล้างมือฆ่าเชื้อโรค เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานี หากต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงควรจะใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ไปรับเชื้อจากผู้อื่น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน เน้น “ กินร้อน ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัดและรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ” ... สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องสร้างเอง พบกันใหม่สัปดาห์หน้า นิชรา บุญตะนัย ผู้สื่อข่าวสุขภาวะ ภาคอีสาน สานใจสานพลัง รายงานจาก จ.อุบลราชธานี ค่ะ