สคร.๖ ขอความร่วมมือประชาชนงดเผาเศษวัชพืช ซังอ้อย และขยะ เพราะมีผลกระทบกับผู้มีความเสี่ยงในภาคเหนือ โดยเฉพาะในช่วงเดือน มค.-ม.ค.
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๖ ขอนแก่น ขอความร่วมมือประชาชน ร่วมกันงดเผาวัชพืชจากการเกษตร ซังอ้อย ขยะในหมู่บ้าน หวั่นซ้ำเติมภาวะหมอกควันพี่น้องภาคเหนือ โดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก ผู้มีโรคระบบทางเดินหายใจ หวังวิกฤติหมอกควันไม่รุนแรงไปกว่าทุกปี

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยถึงมาตรการดูแลสุขภาพประชาชนจากผลกระทบปัญหาหมอกควันไฟป่าใน พื้นที่ภาคเหนือตอนบนว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งดำเนินป้องกันปัญหาไฟป่าอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของการดูแลสุขภาพนั้น สธ.ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน และตาก พร้อมทั้งโรงพยาบาลทุกระดับในพื้นที่ดังกล่าว จัดเตรียมเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ ยาประจำห้องฉุกเฉินต่างๆ ให้พร้อมบริการประชาชนที่เจ็บป่วยตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ให้แต่ละพื้นที่เตรียมทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ทันทีเมื่อพบผู้ป่วย ที่มีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับหมอกควัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งเป้าลดผลกระทบให้เร็วที่สุด และขอความร่วมมืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รณรงค์ประชาชนในหมู่บ้านงดเผาป่า เผาหญ้า/วัชพืช หรือขยะ เพื่อลดมลพิษในอากาศ ทั้งนี้ ได้ให้กรมควบคุมโรคสำรองหน้ากากอนามัย จำนวน 270,000 ชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนใน พื้นที่ป้องกันการสูดฝุ่นละอองเข้าปอด หากคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ไม่ปลอดภัย และล่าสุดได้แจกให้ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนแล้ว 150,000 ชิ้น
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า มลพิษจากหมอกควันไฟที่เกิดจากการเผาป่า เผาขยะ เผาวัชพืช จะมีผลกระทบต่อสุขภาพ 4 ระบบ ได้แก่ 1.ระคายเคืองทางเดินหายใจ 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.ระคายเคืองตา ตาอักเสบ และ 4.กลุ่มผิวหนังอักเสบ อย่างไรก็ตาม ผลจากการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยในโรงพยาบาล 22 แห่งในพื้นที่ ยังไม่พบความผิดปกติจากปัญหาหมอกควันกลุ่มที่มีความเสี่ยง เจ็บป่วยจากปัญหาฝุ่นควันไฟง่ายกว่าคนทั่วๆ ไปที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ มี 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มเด็ก 2.หญิงตั้งครรภ์ 3.ผู้สูงอายุ 4.ผู้ป่วยโรคหอบหืด 5.ผู้ป่วยโรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง 6.ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ และ 7.ผู้ป่วยโรคหัวใจ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสูดละอองหมอกควัน หากเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน หรือเกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร งดกิจกรรมกลางแจ้ง สังเกตอาการของตนเองและสำรองยาให้เพียงพอ ควรสังเกตอาการตนเอง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานคือเกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเพื่อป้องกันการสูดละอองหมอกควันเข้าปอด เน้นการใช้หน้ากากอนามัยชนิดผ้า หรือใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก หากมีอาการผิดปกติ เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ให้รีบไปพบแพทย์