ระวังภัยสุขภาพช่วงหน้าหนาว
ฤดูหนาวถือเป็นช่วงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงจากหน้าฝน ซึ่งมีความชื้นในอากาศสูงมาสู่หน้าหนาวที่มีความชื้นในอากาศและอุณหภูมิลดลงอย่างชัดเจน จากสภาวะอากาศเช่นนี้ส่งผลให้เกิดโรคภัยแทรกซ้อนได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ออกประกาศ เรื่อง การป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2557 โดยโรคที่มีแนวโน้มจะระบาดในฤดูหนาวและกระทบต่อสุขภาพประชาชนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. โรคติดเชื้อ ได้แก่ โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคสุกใส โรคมือ เท้า ปาก และโรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก 2.ภัยสุขภาพ เช่น อันตรายจากการดื่มสุราแก้หนาว อันตรายจากการท่องเที่ยวในฤดูหนาว โดย ธ.ค. 2556 สำนักระบาดวิทยา ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาว ( 22 ต.ค.56 - 9 ก.พ.57) รวมทั้งสิ้น 82 ราย เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็น (หนาวตาย) จำนวน 2 ราย ใน จ.เลย และ อุบลราชธานี แลtเสียชีวิตจากที่มีปัจจัยเสี่ยงเสริมร่วมกับภาวะอากาศหนาวเย็น โดยปัจจัยเสี่ยงเสริมที่สำคัญ คือ การดื่มสุราและสวมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวไม่เพียงพอ รวมทั้งกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ลมชัก คนพิการและผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย เป็นต้น
ประชาชนจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้และหอบหืดไม่ควรก่อไฟผิง เพราะควันไฟจะระคายเคืองระบบทางเดินลมหายใจทำให้อาการรุนแรงขึ้น ไม่ดื่มสุราแก้หนาว เพราะนอกจากจะไม่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายแล้ว ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อน และกดประสาท ทำให้ง่วงซึมและหมดสติโดยไม่รู้ตัว หากมีโรคประจำตัวจะทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ .... สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมไปกางเต็นท์นอนตามป่า นอนดูดาวในหน้าหนาว ควรเตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อม ซึ่งจุดที่จะต้องให้ความอบอุ่นเป็นพิเศษ คือ ศีรษะ คอ และหน้าอก เนื่องจากมีเส้นเลือดใหญ่อยู่ใกล้ผิวหนังที่จะไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญ หากเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงไม่พอก็จะเป็นอันตรายได้ และขอให้ระมัดระวังตัวไรอ่อนในป่า ซึ่ง เป็นพาหะนำโรคสครับไทฟัส และโรคไข้จับสั่นหรือไข้มาลาเรีย ที่เกิดจากยุงก้นปล่องกัด ทั้ง 2 โรคนี้ มีอันตรายทำให้เสียชีวิตได้ ไม่มียากินป้องกัน และไม่มีวัคซีนป้องกันโรค การป้องกันที่ดีที่สุด คือไม่ให้ไรอ่อนกัด ดังนั้น ผู้ที่จะเดินป่า กางเต๊นท์นอนในป่า ควรใส่รองเท้า ถุงเท้า ที่หุ้มปลายขากางเกงไว้ ใส่เสื้อแขนยาวปิดคอ และเหน็บปลายเสื้อเข้าในกางเกง ใช้ยาทากันแมลงกัด การเลือกที่ตั้งค่ายพักในป่า ควรทำบริเวณค่ายพักให้โล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนบริเวณพุ่มไม้ ป่าละเมาะ หรือหญ้าขึ้นรก เมื่อกลับมาถึงที่พัก ต้องรีบนำเสื้อผ้าไปต้ม หรือแช่ผงซักฟอกทันที เพื่อทำลายไรอ่อนที่อาจติดมากับเสื้อผ้าได้

พร้อมกันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้ออกมาเตือนประชาชนระมัดระวังการสวมเสื้อกันหนาวมือสอง เนื่องจาก เสื้อผ้ามือสองเป็นที่นิยมของคนไทยมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว เนื่องจากบางตัวเป็นสินค้าแบรนด์เนม มีคุณภาพ แต่ผ่านการใช้งานแล้ว นำมาจากประเทศต่างๆ ทั้งแถบยุโรปและเอเชีย แต่เนื่องจากเสื้อผ้าดังกล่าวมาหลายประเทศและจากแหล่งที่เราไม่รู้จัก เจ้าของเสื้อผ้านั้นป่วยเป็นโรคผิวหนังหรือโรคอันตรายอื่นๆ หรือไม่ รวมทั้งอาจมีสิ่งสกปรกติดมากับเสื้อ ทั้งความชื้น เชื้อรา และเชื้อโรคอันตรายที่ไม่คาดคิดปะปนอยู่ เมื่อนำมาวางขายจึงเป็นเพียงสินค้ายี่ห้อหรู แต่ไม่รู้ถึงภัยที่แฝงมากับผ้ามือสอง แม้ว่าที่ผ่านมายังไม่มีกรณีร้องเรียนจากผู้บริโภค แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาท จึงควรนำเสื้อผ้ามือสองมาทำความสะอาด ต้ม ซักรีด ก่อนใช้เพื่อความปลอดภัยจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกลากเกลื้อนและโรคผิวหนังอื่นๆตามมา ค่ะ …. พบกันใหม่ สัปดาห์หน้า นิชรา บุญตะนัย ผู้สื่อข่าวสุขภาวะภาคอีสาน สานใจ สานพลัง รายงานจาก จังหวัดอุบลราชธานี ค่ะ