เตือนตาแดงระบาดในชุมชนหวั่นเด็กนักเรียนในโรงเรียน ผู้ทำงานสำนักงาน สถานประกอบการ โรงงานติดเชื้อตาแดงเพราะติดต่อง่าย
พญ.ศศิธร ตั้งสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ขอนแก่น กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคตาแดงในหลายพื้นที่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะในสถานศึกษา สถานประกอบการ โรงงาน ค่ายทหาร สำนักงานที่มีผู้คนมาทำงานร่วมกันจำนวนมาก สิ่งสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อคือการรักษาความสะอาดของมือ แยกของใช้ส่วนตัว ไม่คลุกคลีใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีอาการตาแดง
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคตาแดงในพื้นที่ของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๖ จังหวัดขอนแก่น พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -23 สิงหาคม 2557 ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคตาแดงทั้งสิ้น 40,581 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 390.73 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตกลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ อายุ 5 – 9 ปีอัตราป่วยเท่ากับ 947.04 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ กลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี กลุ่มอายุ 55 - 64 ปี และ 10 – 14 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ จังหวัดมหาสารคาม รองลงมาคือจังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัด ร้อยเอ็ด ซึ่ง โรคตาแดง เป็นโรคที่ผู้ป่วยมีเยื่อบุตาแดงขึ้นกว่าปกติเนื่องจากมีการอักเสบหรือ ระคายเคืองที่เยื่อบุตา ซึ่งสาเหตุของอาการตาแดงที่พบได้บ่อยในช่วงหน้าฝนและบริเวณที่มีน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นเช่น ตาแดงจากการแพ้หรือระคายเคืองและตาแดงจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาการของโรคตาแดง คือมีอาการระคายเคืองหรือ
แสบตา ปวดตา น้ำตาไหล มีขี้ตามากกว่าปกติ เยื่อบุตาขาวอักเสบแดง เห็นเส้นเลือดชัดขึ้น กลัวแสง หนังตาบวม มักเริ่มที่ตาข้างหนึ่งก่อนแล้วจึงลามไปอีกข้าง ผู้ป่วยมักมีอาการ “ตาแฉะ” คือมีน้ำตาและขี้ตาปริมาณมาก ขี้ตามีลักษณะเป็นหนองหรือมูกเขียวเหลือง มักติดต่อโดยตรงจาก การสัมผัสน้ำตา ขี้ตาหรือน้ำมูกของผู้ป่วย “มือ” เป็นอวัยวะสำคัญในการนำเชื้อโรคเข้าสู่เยื่อบุตา นอกจากนี้ยังติดต่อถึงผู้อื่นผ่านการใช้ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกัน เช่นผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น การระบาดโดยปกติมักเกิดในที่มีคนอยู่รวมกันอย่างแออัดหรือใกล้ชิด เช่นโรงเรียน โรงงาน ชุมชนแออัด ค่ายทหาร การป้องกันโรคตาแดงทำได้โดยการรักษาความสะอาดของมือและลดโอกาสที่จะรับเชื้อโรค หรือน้ำสกปรกเข้าสู่ตา เช่น ไม่ควรว่าย ลงแช่หรือเล่นน้ำที่ท่วมขัง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำสกปรก หากน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา ควรใช้น้ำสะอาดรีบล้างหน้าและล้างตาทันที ไม่อยู่ใกล้หรือคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคตาแดง แยกของใช้ส่วนตัว พยายามอย่าใช้มือสัมผัสกับดวงตา หมั่นล้างมือด้วยน้ำสบู่บ่อยๆ หากป่วยเป็นตาแดงควร พักผ่อนสายตา หยุดงานหรือลาโรงเรียนเพื่อลดโอกาสติดต่อไปยังผู้อื่น แนะนำให้ใช้กระดาษทิชชู่ในการซับน้ำตาแล้วทิ้งขยะทันที ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน หรือมีการมองเห็นแย่ลง หรือมองภาพไม่ชัดกลัวแสงมาก แสบหรือปวดตามาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโดยด่วน ไม่นิ่งนอนใจเพราะบางกรณีอาจเกิดอันตรายจนถึงตาบอดได้ โรคนี้ป้องกันได้รักษาหายต้องระวังเรื่องความสะอาดของมือ และหยอดยารักษาให้ครบตามกำหนดหากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์


จากการเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยาย้อนหลัง 10 ปี โรคตาแดงมักจะระบาดทุก 2-3 ปี ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และเดือนกันยายน-ตุลาคม แต่ในปี 2557 นี้
มีรายงานผู้ป่วยจำนวนมากตั้งแต่ต้นปี ร่วมกับปีนี้เป็นวงรอบการระบาด จึงเตือนประชาชนเน้นสุขลักษณะส่วนบุคตลที่ดี ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ถ้าป่วยต้องหยุดเรียน หยุดงาน จนกว่าจะหายเป็นปกติแล้ว 1 วัน ถ้าพบผู้ป่วยในโรงเรียน โรงงาน สำนักงาน ควรทำความสะอาดจุดที่ใช้ร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ห้องน้ำ ราวบันได เป็นต้น ด้วยน้ำผสมผงฟอกขาว อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ถ้าตามัวลง ปวดตามาก กรอกตาแล้วปวด มีไข้ หรือตาแดงแล้ว 2 วัน อาการไม่ดีขึ้นรีบมาพบแพทย์ ประชาชนที่มีความสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโรคติดต่อทั่วไป โทร 0-2590 3183 หรือ สายด่วน
กรมควบคุมโรค โทร. 1422”