ตอนที่ 56 : จ.อุบลฯ น้ำท่วมหนัก เตือนระวังโรคตาแดง

ตั้งแต่กลางเดือน กรกฎาคม 2557 เป็นต้นมา จังหวัดอุบลราชธานี ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยทางจังหวัดได้ประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว จำนวน 19 อำเภอ, 76 ตำบล , 637 หมู่บ้าน , 28,986 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 72,472 คน น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร 1,080 หลัง , โรงงาน 1 แห่ง ,ถนน 190 สาย , สะพาน 25 แห่ง วัด 20 แห่ง ล โรงเรียน 3 แห่ง สถานที่ราชการ 3 แห่ง ท่อระบายน้ำ 1 แห่ง พื้นที่การเกษตร 121,762 ไร่ สัตว์ปีก 15,080 ตัว บ่อปลา 91 บ่อ โดยทางจังหวัดฯ ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว ทั้ง 19 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเดชอุดม, พิบูลมังสาหาร, สำโรง, นาเยีย, เมืองอุบลราชธานี, วารินชำราบ, สว่างวีระวงศ์, สิรินธร, ดอนมดแดง, ตระการพืชผล, เขมราฐ, โขงเจียม, ตาลสุม, น้ำยืน, เหล่าเสือโก้ก, นาจะหลวย, ทุ่งศรีอุดม, น้ำขุ่น และอำเภอศรีเมืองใหม่ (ข้อมูล วันที่ 2 สิงหาคม 2557) ทั้งนี้ทางจังหวัดฯ ได้จัดตั้งศูนย์อํานวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม ที่ห้องประชุมนิทรรศการ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือได้ พร้อมกันนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี และเทศบาลนครอุบลราชธานี ก็ได้เตรียมกระสอบทรายไว้บริการประชาชน โดยสามารถขอรับกระสอบทรายได้ที่ หน้าศูนย์โอท็อป เซ็นเตอร์ หอนาฬิกา และอาคารป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครอุบลราชธานี ขอรับความช่วยเหลือได้ ตลอด 24 ชม.

และในภาวะที่มีน้ำขังเป็นเวลานานเช่นนี้ น้ำที่ เน่า-เสีย ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ส่งผลให้ประชาชนเกิดการเจ็บป่วยจากโรคติดต่อที่มากับน้ำหลายโรค ทั้ง โรคฉี่หนู อหิวาตกโรค โรคอุจจาระร่วง ไข้เลือดออก น้ำกัดเท้า โรคตาแดง เป็นต้น ซึ่งโรคตาแดง ถือเป็นหนึ่งในโรคที่ระบาดในสภาวะน้ำท่วม ที่พบได้ทุกเพศทุกวัย มักเกิดการระบาดในกลุ่มชุมชน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ทำงาน สถานเลี้ยงเด็ก ติดต่อจากคนหนึ่ง ไปสู่อีกคนหนึ่ง และเมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะระบาดลุกลามอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลสถานการณ์ของโรคตาแดงในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 กรกฎาคม 2557 จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี พบว่า จังหวัดอุบลราชธานี มีผู้ป่วยโรคตาแดงแล้ว จำนวน 5,442 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 298.78 ต่อประชากรแสนคน ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา ประมาณ 22.1 % จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นในเดือน กรกฎาคม 2557 จำนวน 1,078 ราย อำเภอที่มีการระบาดมาก ในเดือนดังกล่าว ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี 172 ราย , สำโรง 171 ราย , สว่างวีระวงศ์ 120 ราย , วารินชำราบ 105 ราย และอำเภอน้ำยืน 52 ราย

การติดต่อของโรค เกิดจากการสัมผัสน้ำตาของผู้ที่เป็นโรค แล้วนำมือที่เปื้อนน้ำตานั้น มาสัมผัสตาตนเอง รวมถึงการได้รับเชื้อที่กระจายอยู่ในอากาศ สระว่ายน้ำ ห้วย หนอง คลองบึง เป็นต้น โดยปกติเชื้อจะใช้เวลาฟักตัว 1-2 วัน ก่อนแสดงอาการ ซึ่งในผู้ที่เป็นโรคตาแดง จะสามารถตรวจพบเชื้อก่อโรค บริเวณตาและในลำคอได้ ตั้งแต่วันแสดงอาการ จนถึง 14 วัน หลังจากเริ่มมีอาการ ดังนั้น เมื่อเริ่มรู้สึกระคายเคืองตา ปวดเบ้าตา น้ำตาไหล เปลือกตาบวม เยื่อบุตาจะค่อยๆแดงขึ้น จนแดงก่ำ บางรายอาจพบการบวมของเยื่อบุตาเป็นลักษณะบวมน้ำ หากพลิกดูบริเวณเปลือกตาด้านใน จะพบลักษณะเป็นเม็ดขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป อาการจะเริ่มจากตาข้างหนึ่งแล้วลามไปยังตาอีกข้างหนึ่ง ภายใน 2-3 วัน และอาจมีการอักเสบของกระจกตาร่วมด้วย เนื่องจากเชื้อไวรัสจะลามไปที่กระจกตา หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน โดยส่วนใหญ่โรคนี้จะหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์ โดยไม่มีผลแทรกซ้อนใดๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการทุกรายควรได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ ตั้งแต่เมื่อเริ่มมีอาการ หากตาแดงมาก หรือมีการอักเสบที่กระจกตา ควรรีบไปพบแพทย์ และที่สำคัญที่สุด ต้องป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น โดยต้องหยุดเรียนหรือพักงานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ไม่อยู่ในที่ชุมชน ใช้กระดาษนุ่มซับน้ำตาหรือขี้ตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าเนื่องจากจะเก็บสะสมเชื้อไว้และติดต่อไปยังผู้อื่นได้ และ หมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากจับบริเวณใบหน้าและดวงตา เนื่องจากการล้างมือ จะช่วยระงับการกระจายเชื้อได้เป็นอย่างดี ค่ะ …. สุดท้ายนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขอให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤตนี้ ไปให้ให้ได้ จิตใจเข้มแข็ง สุขภาพแข็งแรง นะคะ พบกันใหม่ สัปดาห์หน้า นิชรา บุญตะนัย ผู้สื่อข่าวสุขภาวะภาคอีสาน สานใจ สานพลัง รายงานจาก จังหวัดอุบลราชธานี ค่ะ