อบจ.ขอนแก่น จัดโครงการ “สร้างเสริมศักยภาพการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ของชมรมที่จัดตั้งใหม่”
องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับสาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประจำจังหวัดขอนแก่น จัดโครงการ “สร้างเสริมศักยภาพการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ของชมรมที่จัดตั้งใหม่” ในวันที่ 1๓ ธันวาคม 255๖ ณ ห้องประชุมอาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) ชั้น 1 วัดธาตุพระอารามหลวงจังหวัดขอนแก่น โดยมีเป้าหมายคือกรรมการสาขาสมาคม สภาผู้สูงอายุประจำอำเภอและประจำจังหวัดขอนแก่นและสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จาก ๑๗๒ ชมรม จำนวน ๑๓๐ คน
การจัดทำโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้ชมรมผู้สูงอายุได้ตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบในการดำเนินงานของชมรมให้มีประสิทธิภาพเข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ความรู้และส่งเสริม ให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ และเสริมคุณค่าผู้สูงอายุอย่างทั่วถึงอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนให้ความรู้ เกี่ยวกับการทำกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งในชมรม

หมอเตือนชุมชนระวังเด็กนำเมล็ดสบู่ดำมารับประทาน ย้ำชัดมีพิษต่อระบบทางเดินอาหาร อาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้
หมอเตือนชุมชนห้ามเด็กนำเมล็ดสบู่ดำมารับประทาน ย้ำเมล็ดสบู่ดำอันตราย มีพิษต่อระบบทางเดินอาหารเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด รายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการมือเท้าเกร็ง หายใจเร็ว หอบ ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดปกติ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
พญ.ศศิธร ตั้งสวัสดิ์ ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 (สคร.6) ขอนแก่น รับผิดชอบพื้นที่รวม 9 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู หนองคาย และบึงกาฬ เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีมักจะพบผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษจากเมล็ดสบู่ดำอยู่เสมอ เนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาล จากปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิงราคาสูงในปัจจุบัน ทำให้เกิดความพยายามหาพลังงานอื่นมาทดแทน “พลังงานที่ได้จากพืช” เป็นทางเลือกหนึ่งและหาได้ไม่ยากนัก รัฐบาลยังสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาปลูกพืช เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนกันอย่างกว้างขวาง มีพืชหลายชนิดสามาร ถนำมาสกัดเป็นน้ำมัน ได้แก่ ปาล์ม มันสำปะหลัง อ้อย ละหุ่ง และสบู่ดำ เป็นต้น โดยเฉพาะสบู่ดำ ซึ่งเป็นพืชที่มีในท้องถิ่น และพืชสมุนไพรทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นนาข้าว สวนผลไม้ ได้เปลี่ยนมาปลูกสบู่ดำ ที่ปลูกกันแพร่หลายทั้งในบ้าน แปลงเกษตร และปลูกเพื่อการสาธิตในโรงเรียน ซึ่งจากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของกรมควบคุมโรคได้รับรายงานการได้รับพิษในเด็กที่กินเมล็ดสบู่ดำมากขึ้นทุกปี
สบู่ดำ เป็นพืชน้ำมันวงศ์ไม้ยางพารา ซึ่งมีความหลากหลายกันค่อนข้างมากในลักษณะต้นใบ ช่อดอก และเมล็ด มีชื่อเรียกต่างๆกัน ภาคเหนือเรียก มะหุ่งฮั้ว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียก มะเยา ภาคใต้เรียก มะหงเทศ หรือมะเคาะ เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลางสูง 2-7 ใบเรียว มี 4 แฉกคล้ายละหุ่ง ออกดอกเป็นช่อกระจุก มีข้อส่วนปลายของยอดดอกเล็กสีเหลือง เมื่อติดผลมีสีเขียวอ่อน กลมเกลี้ยงเป็นช่อมีหลายผล เวลาแก่จัดสุกสีเหลืองคล้ายลูกจันทรงกลม ขนาดปานกลางเปลือกหนาปานกลาง ผลหนึ่งมักมี 3 พู แต่ละพูหุ้มเมล็ด
เมล็ดสบู่ดำ มีสารพิษเรียกว่า CURCIN หากบริโภคจะแสดงอาการต่อระบบทางเดินอาหาร พิษที่พบในเด็กที่รับประทานเมล็ดสบู่ดำ ได้แก่ อาการกระสับกระส่าย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน และขาดน้ำ อาจถ่ายเป็นเลือดได้ มีความดันโลหิตต่ำในผู้ใหญ่ กรณีที่เป็นสายพันธุ์ที่มีสารพิษสูง หากรับประทานเพียงแค่ เมล็ด ก็เป็นอันตรายแก่ระบบทางเดินอาหาร แต่บางสายพันธุ์รับประทานถึง 50 เมล็ดก็ไม่เป็นอันตราย
ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย จึงมีคำแนะนำสำหรับประชาชนดังนี้ เนื่องจากมีรายงานพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำทุกปี โดยเฉพาะในเด็กนักเรียน จึงขอแนะนำให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. สำหรับชุมชนที่ปลูกต้นสบู่ดำไว้ใช้ประโยชน์ หรือโรงเรียนที่ปลูกต้นสบู่ดำไว้สาธิต หรือไว้ประกอบการสอน ต้องติดชื่อต้นไม้ไว้ พร้อมคำแนะนำว่าเป็นพืชมีพิษ ห้ามรับประทานเมล็ด ระวังน้ำยางสบู่ดำถูกผิวหนัง เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง บวมแดง ปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรง หากเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบ อาจตาบอดชั่วคราวได้
2. โรงเรียนควรล้อมรั้วให้มิดชิด เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เพราะเด็กเล็กอาจลองชิมเมล็ดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
3. ครู และผู้ปกครอง ควรระมัดระวังและแนะนำเด็กห้ามนำเมล็ดสบู่ดำมารับประทานอย่างเด็ดขาด
สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับพิษจากสบู่ดำ หากยางสบู่ดำถูกผิวหนัง ขอให้รีบล้างน้ำและฟอกสบู่ทันที ส่วนผู้ที่ได้รับพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำเข้าไป การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้ดื่มนมจำนวนมาก หรือทำให้อาเจียน เพื่อเอาพิษออกจากกระเพาะอาหาร และรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป.