สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี หรือ สคร.7 เตือนผู้ปกครองป้องกันโรคปอดบวมในเด็ก ช่วงหน้าหนาวนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน , เด็กน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย ,เด็กขาดสารอาหาร , และเด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หากป่วยอาจทำให้เสียชีวิตได้ ควรเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย หลีกเลี่ยงการพาเด็กเข้าไปในสถานที่แออัด หรือบริเวณที่มีควันไฟ ควันบุหรี่

นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่กำลังหนาวเย็นในขณะนี้ส่งผลให้เด็กป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อเฉียบพลันทางระบบหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด คออักเสบ หูอักเสบ หลอดลมอักเสบ ซึ่งโรคที่รุนแรงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในเด็กในช่วงนี้ คือ โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ ที่เป็นสาเหตุการตายสูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มโรคติดเชื้อทั้งหมด ในแต่ละปี ทั่วโลกจะมีเด็กเสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 2 ล้านคน ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ป่วยมากสุดที่ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดขอนแก่น ดังนั้นผู้ปกครองจึงต้องระมัดระวังดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด ในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่ม คือ เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี , เด็กที่มีน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย , เด็กขาดสารอาหาร , เด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หากป่วยเป็นโรคปอดบวม จะมีอันตรายมากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากเด็กกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จะมีภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าเด็กปกติทั่วไปมาก

ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี ยังกล่าวอีกว่า หากเด็กเล็ก ไม่สบาย พ่อแม่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กมีโอกาสเป็นปอดบวมแทรกซ้อนได้ง่าย ส่วนวิธีการดูแลเด็กที่เป็นไข้หวัด ควรให้ดื่มน้ำ หรือนม บ่อยๆ และให้เด็กนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่ย่อยง่าย หากมีไข้ ให้เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดา และอาจให้ทานยาลดไข้ประเภทพาราเซตามอลได้ อาการไข้หวัดจะค่อยๆดีขึ้น และหายป่วยประมาณ 1 สัปดาห์ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น โดยเด็กมีอาการซึมลง ไม่ทานน้ำไม่ทานนม มีอาการไข้สูง ไอ หายใจหอบ เร็ว หายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม ซึ่งเป็นสัญญาณ ของอาการปอดบวม ให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันทีหากเด็กได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกๆอันตรายต่างๆก็จะน้อยลง สำหรับคำแนะนำในการป้องกันโรคปอดบวมช่วงหน้าหนาว ผู้อำนวยการ สคร.7 แนะนำว่า ให้ผู้ปกครองดูแลเพิ่มความอบอุ่นให้กับเด็ก โดยสวมเสื้อกันหนาว หรือเสื้อผ้าหนาๆ หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กเข้าไปในบริเวณที่ชุมชนแออัด หรือ มีควันไฟ ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ซึ่งทำให้เด็กมีโอกาสเป็นหวัดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณแม่หลังคลอด ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งสามารถเพิ่มภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติกับเด็กได้ โดยภูมิต้านทานจากแม่ จะส่งผ่านไปยังลู กผ่านทางน้ำนม ทำให้เด็กแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย ค่ะ

คุณผู้ฟังคะ ... หน้าหนาวนี้ นอกจากการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคแล้ว เรื่องของเพลิงไฟก็ต้องระมัดระวังด้วยนะคะ เพราะช่วงหน้าหนาวอากาศจะแห้ง และเย็น มีลมพัดแรง ทำให้เพลิงไหม้ลุกลามได้ง่าย ดังนั้นถ้าท่านก่อไฟผิง ก่อนลุกออกจากกองไฟ ควรดูให้ดีว่าดับไฟสนิทแล้วหรือยัง สำหรับท่านที่จุดธูปเทียนไหว้พระ ก่อนออกจากห้องพระ ดูให้ดีนะคะ ว่าธูปเทียนดับสนิทแล้ว หรือเปล่า และที่สำคัญอย่าลืมตรวจตราอุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟ ปลั๊กไฟ เก่า หรือชำรุด ก็ควรเปลี่ยนใหม่ซะ เพื่อป้องกันเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจนทำให้เกิดไฟไหม้ได้.... พบกันใหม่สัปดาห์หน้า นิชรา บุญตะนัย ผสข.สุขภาวะภาคอีสาน สานใจ สานพลัง รายงานจาก จ.อุบลราชธานี ค่ะ