รานงานสุขภาวะภาคเหนือ รายการสานใจสานพลัง” ตอนการทอดกฐินที่เปลี่ยนไป”
รายงานโดย ลุงจ๊าง สันป่าตอง หรือ นาย ไพศาล ภิโลคำ
หลังจากเทศกาลออกพรรษา ๑ เดือน เริ่มตั้งแต่ วันที่ ๒๐ ต.ค.๕๖ –๑๘ พ.ย.๕๖ เป็นช่วงที่มีงานทำบุญทอดกฐิน ทางภาคกลาง มีงาน จุลกฐิน กฐินหลวง กฐินราษฎร์ ประเพณีทางล้านนา หรือ ภาคเหนือ นิยม จัดงานจุลกฐิน เพราะว่ามีการเตรียมการจัดงานทำบูญตั้งแต่ การเตรียมการปลูกฝ้าย การย้อมผ้าฝ้าย การย้อมสี การตัดเย็บ งานเหล่านี้นิยมทำกันคืนเดียวเสร็จและรุ่งเช้าก็นำผ้าที่ตัดเย็บ ถวายต่อพระสงฆ์ –สามเณร ที่จำพรรษามา ๓ เดือน อีกฐินชนิดหนึ่งเรียกว่า กฐินหลวงคือ กฐินที่ ทางราชสำนักจัดทอดถวายกับวัดที่เป็นพระอารามหลวง เช่นวัดอรุณราชวราราม วัดบวรนิเวศวรมหาวิหาร ฯลฯ วัดเหล่านี้ทางพระราชสำนัก โดยพระเจ้าแผ่นดิน หรือ พระบรมวงศานุวงศ์ จะเป็นองค์ประธานเสด็จพระราชดำเนินไปทอดกฐิน หรือวัดที่เป็นพระอารามหลวง ทาง หน่วยงานราชการจะได้รับพระบรมราชานุญาต ให้นำไปทอดถวายตามวัดพระอารามหลวง ส่วนกฐินราษฏร์ คือกฐินที่ราษฏร ร่วมมือกันทอดถวาย และจะต้องมีการจองกฐินวัดที่มีการจำพรรษาของพระภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปเป็นต้นไป
มีผู้รู้บอกว่าปัจจุบันมีเปลี่ยนแปลงไปมากเช่น บางวัดไม่มีพระจำพรรษาครบ ๔ รูปแต่ก็มีการนิมนต์พระสงฆ์จากวัดอื่น มารับผ้ากฐิน หรือ ไม่มีการจองมานานตามที่สมควร
บางพื้นที่ก็มีหน่วยงานราชการขอพระบรมราชานุญาต ขอจัดการทอดกฐินตามวัดพระอารามหลวง ประจำอำเภอหรือจังหวัดทางผู้รู้ตั้งข้อสังเกตว่ามันมากไป..พอสมควรทางลุงจ๊าง สันป่าตอง ก็เห็นว่ามันผิดสังเกตุพอสมควร ปีนี้มีงานทอดกฐินเกือบทุกวัดในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ หากเป็นประเทศไทยก็มากพอสมควร..
สรุป การทอดกฐิน
๑.เป็นการสร้างการศรัทธาต่อศาสนา
คนที่มาร่วมทำบุญเป็นงานสร้างศรัทธาต่อต่อพระพุทธศาสนา โดยเป็นการสร้างจิตใจที่ต้องการบริจาค ให้กับชุมชน
๒.เป็นการสร้างศาสนวัตถุ
การทอดกฐินเป็นการนำปัจจัยที่ได้รับไปทำนุบำรุง ศาสนวัตถุไว้ในบวรพระพุทธศาสนา เช่น โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ศาลาบาตร กุฏิสงฆ์ ห้องน้ำ กำแพง เป็นต้น