นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สภาพอากาศขณะนี้มีฝนตกต่อเนื่อง บางพื้นที่อาจมีน้ำท่วมขัง ทำให้เกิดเชื้อโรคและสิ่งปฏิกูลตามมามากมาย นำมาซึ่งโรคติดต่อต่างๆ ได้แก่ โรคตาแดง น้ำกัดเท้า ฮ่องกงฟุต อหิวาตกโรค อุจจาระร่วงฯลฯ รวมทั้งอีกหนึ่งโรคที่ร้ายแรงไม่แพ้กันก็คือ "โรคฉี่หนู" หรือโรคเล็ปโตสไปโรซิส หากมีความจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ หรืออยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ต้องป้องกันอย่างเคร่งครัด เพราะโรคนี้มักระบาดในช่วงน้ำท่วม และยังเป็นโรคที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
นพ.นรินทร์รัชต์ กล่าวต่อว่า โรค ฉี่หนู หรือโรคเล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) เป็นโรคระบาดในคน พบได้บ่อยในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นฤดูฝน สาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย เลปโตสไปรา ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์พาหะ โดยส่วนใหญ่คือ หนู แต่ก็ยังรวมถึงสุกร โค กระบือ แพะ แกะ หรือสัตว์เลี้ยงใกล้ตัวอย่างแมว และสุนัขด้วย การติดต่อโดยการไชเข้าทางบาดแผลหรือเข้าทางเยื่อบุอ่อนๆ เช่น ง่ามมือ ง่ามเท้า เยื่อบุตา ขณะที่แช่น้ำ หรือรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไข้ฉี่หนู ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค ได้แก่ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ผู้ที่ลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ เดินลุยน้ำท่วม คนงานบ่อปลา ชาวสวน ชาวนา คนงานขุดลอกท่อระบายน้ำ เป็นต้น เมื่อป่วยมักเริ่มมีอาการหลังได้รับเชื้อ 2 – 10 วัน โดยเริ่มมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะน่องและโคนขา ต่อมาอาจมีเยื่อบุตาแดง เจ็บคอ เบื่ออาหาร ท้องเดิน หากมีอาการที่กล่าวมาหลังจากไปแช่น้ำ ย่ำโคลนมา 2-26 วัน (เฉลี่ย 10 วัน) ควรนึกถึงโรคนี้ ไม่ควรหายามากินเอง ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือหน่วยแพทย์ที่ออกมาให้บริการในพื้นที่ ถ้าไม่รีบรักษา บางรายอาจมีจุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอมีเลือดปน หรือตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะน้อย ซึม สับสน เนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจมีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเสียชีวิตได้

นพ.นรินทร์รัชต์ กล่าวแนะนำวิธีการป้องกันโรค นี้ หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ ย่ำโคลนนานๆ เมื่อขึ้นจากน้ำแล้ว ต้องรีบอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ซับให้แห้งโดยเร็วที่สุด ควรสวมรองเท้า หรือรองเท้าบู๊ทที่เหมาะสมสามารถป้องกันน้ำได้ หากต้องลุยน้ำย่ำโคลน เดินบนที่ชื้นแฉะ โดยเฉพาะถ้ามีบาดแผลควรระมัดระวังเป็นพิเศษ รับประทานอาหารที่สะอาด และเก็บอาหารในภาชนะที่มิดชิด เก็บกวาดขยะใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น ไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู ดูแลที่พักให้สะอาดไม่ให้เป็นที่อาศัยของหนู หากมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะน่องและโคนขา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้การดูแลรักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ภายหลังน้ำท่วมควรสำรวจพื้นที่และปรับสภาพสิ่งแวดล้อม เช่น ทำทางเดินเท้าให้สูงกว่าพื้นปกติ ตรวจดูระบบท่อระบายน้ำและส้วม เก็บกวาดขยะใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น ไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนูและสัตว์อื่นๆ สวมถุงมือยางในการเก็บกวาดบ้านเรือน ถนนและสิ่งสาธารณะประโยชน์ สวมรองเท้า หรือรองเท้าบู๊ทที่เหมาะสมสามารถป้องกันน้ำได้หากต้องลุยน้ำย่ำโคลนหรือเดินบนที่ชื้นแฉะ ไม่ใช้น้ำจากแหล่งที่ต้องสงสัยว่าอาจปนเปื้อนเชื้อโรคได้ กำจัดหนูในบริเวณสถานที่อยู่อาศัย หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่วางทิ้งไว้ค้างคืน โดยไม่มีภาชนะปกปิด และทำความสะอาดร่างกายโดยเร็ว หากเดินลงไปในแหล่งน้ำที่สงสัยว่าอาจปนเปื้อนเชื้อ