จากภาวะน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องออกเยี่ยมให้คำแนะนำในการดูสุขภาพทั้งกายและใจ แก่ประชาชนผู้ประสบภัย น้ำท่วม ค่ะ

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี หรือ สคร.7 นำทีมโดย นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผอ.สคร.7 และ นางมนัสนันท์ ลิมปวิทยากุล รอง ผอ.สคร.7 พร้อมเจ้าหน้าที่ จัดกิจกรรมพบปะเยี่ยมเยียน ปลอบขวัญ และให้ความรู้การป้องกันโรคและภัยสุขภาพแก่ประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จุดพักพิงวัดสุปัฏนาราม และจุดพักพิงวัดโรมันคาทอริก อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้งสนับสนุนยากันยุง ยาสามัญประจำบ้าน แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม และเยี่ยมผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังในสถานการณ์น้ำท่วมที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยโรคที่ต้องพึงระวัง คือ กลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร ที่พบบ่อยคือโรคท้องเดิน โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ สาเหตุเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไปในร่างกาย กลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ก็ทำให้เจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งโรคไข้เลือดออก หลายพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง อาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย จึงขอให้ผู้ประสบภัยระมัดระวังโรคไข้เลือดออกเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าโรคระบาดที่กำลังมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในเด็ก ที่ชื่นชอบการเล่นน้ำในบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคระบาดที่มากับน้ำ นั่นคือ โรคตาแดงและเยื่อบุตาอักเสบ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ จ.อุบลราชธานี จึงฝากถึงประชาชนผู้ประสบภัยที่อยู่อาศัยในศูนย์พักพิงให้ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติ สำหรับผู้อยู่ในศูนย์พักพิงอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1. ไม่เก็บอาหารข้ามมื้อควรกินอาหารที่ผ่านความร้อน ปรุงสุกใหม่ๆ ภายใน 4 ชั่วโมง ก่อนกินอาหารสังเกตลักษณะของอาหารและรสชาติว่าบูด เสีย หรือไม่ หากอาหารบูดเสีย ห้ามรับประทาน ให้ทิ้งขยะ และแจ้งอาสาสมัครในศูนย์ว่า พบอาหารบูดเสีย เพื่อระงับการแจกอาหารนั้น 2. ดื่มน้ำสะอาดต้มสุก หรือน้ำบรรจุขวด ถ้าผิดปกติไม่ควรดื่มให้เปิดฝาขวดและนำไปเป็นน้ำใช้ 3. ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ ก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องส้วม และหลังไอจามหรือสั่งน้ำมูก 4. ถ้ามีอาการระคายเคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล ตาแดง มีขี้ตามากผิดปกติ ควรแจ้งหน่วยแพทย์ที่ประจำศูนย์พักพิงทันที ไม่ควรขยี้ตา แยกของใช้ ไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกับคนอื่น 5. ใช้ผ้ากระดาษทิชชู ปิดปาก และจมูกเวลาไอ จาม หรือ ถ้ามีอาการโรคทางเดินหายใจ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ สู่คนอื่น 6. ถ้ามีอาการเจ็บป่วยเช่นท้องเสีย ไข้ ปวดศีรษะ ไอ อ่อนเพลีย คันตามผิวหนังเบื่ออาหารระคายเคืองตา รีบแจ้งหน่วยแพทย์ประจำศูนย์พักพิงทันที 7. ทิ้งเศษขยะ เศษอาหารลงในถังขยะที่จัดไว้ให้เท่านั้น 8. ให้รักษาความสะอาดห้องส้วมห้องน้ำทุกครั้งที่ใช้เสร็จ 9. ผู้ป่วยเรื้อรัง ถ้าขาดยาหรือไม่มียากิน ให้แจ้งหน่วยแพทย์ที่ศูนย์พักพิงทันที และ 10. หากพบบุคคลใกล้ชิดมีอาการไม่สบายควรแจ้งหน่วยแพทย์ระจำศูนย์พักพิงทันที ค่ะ

ด้าน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นำโดย นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ ก็ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน แจกยาสามัญประจำบ้าน ผ้าห่ม และเสื้อกันหนาว ให้กับประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ และป้องกันโรคที่เกิดจากภาวะน้ำท่วมขัง เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะโรคเครียด โรคซึมเศร้า รวมทั้งกลิ่นเน่าเหม็นของน้ำ เมื่อท่วมขังนานๆ ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานี ประสบภัยน้ำท่วมขัง มาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2556 และหากฝนไม่ตกซ้ำลงมา คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน จึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ …. เคยมีคนถามว่า ระหว่างน้ำท่วมกับภัยแล้ง อันไหนดีกว่ากัน ถ้าหากเราไปถามผู้ประสบอุทกภัยในตอนนี้ เชื่อว่าทุกคนคงตอบไปในทำนองเดียวกันว่าว่า..ภัยแล้ง คงดีกว่าน้ำท่วมแน่นอน ค่ะ ...พบกันใหม่สัปดาห์หน้า นิชรา บุญตะนัย ผสข.สุขภาวะภาคอีสาน สานใจสานพลัง รายงาน จาก จังหวัดอุบลราชธานี สวัสดี ค่ะ ...