ระหว่างวันพุธและพฤหัสบดี ที่ ๑๘-๑๙ กันยายน ๒๕๕๖ ณ ข่วงประตูท่าแพ หรือลานประตูท่าแพ ซึ่งเป็นสถานที่ เจ้าผู้นครเชียงใหม่ สมัยประวัติศาสตร์ จะเดินทางไปบางกอกโดยแม่น้ำแม่ระมิงค์หรือ แม่น้ำปิง จะใช้ประตูแห่งนี้ที่ชื่อประตูท่าแพ วันนี้ เครือข่ายประชาคม เช่น ข่ายสุขภาพ ข่ายงดเหล้า ข่าย นานาศาสนา ข่ายหลักประกันสุขภาพ ข่ายผุ้ใช้ยา ข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ข่ายเกษตรอินทรีย์ ฯลฯ ประมาณ ๒,๐๐๐ คน ได้มาร่วมตัวกันสถานที่แห่งนี้ เพราะว่าทางประเทศไทย กำลังมีการเจรจาเขตการค้าเสรี ประเทศไทยกับสหภาพยุโรป ณ โรงแรมเลอเมอริเดียน
หากกล่าวถึง เขตการค้าเสรี FTA. (Free Trade Agrement )เพราะว่าเมื่อก่อนมีการ ประชุม GATT เพื่อเป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเจรจากรณีมีข้อขัดแย้งแต่ไม่เป็นผล ที่ประชุมเลยก่อตั้ง องค์การการค้าโลกWHO. (World Trad Organization)ที่เรียกว่า ทริปพลัส และในระดับภูมิภาค ก็มี EU AEC ฯลฯ
กรณีสภาพยุโรป มีสมาชิก ๒๘ ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศอดีตมหาอำนาจ เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สเปน โปรตุเกส ฮอลันดา ฯลฯ ประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นประเทศ เจ้าอาณานิคม สหภาพยุโรปเคยมีการเจรจากับ อาเซียนมาก่อนแต่ว่าไม่บรรลุผล เพราะว่าอาเซียนไม่อยากทำข้อตกลงมากกว่า” ทริปพลัส”
TRIP เป็นข้อตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า (Agreement on Trad-Related Aspects of intellectual Property Rights,TRIPs) เป็น้อตกลงของสมาชิก ๑๕๓ ประเทศ ของประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลกที่เห็นถึงปัญหาด้านสาธารณสุข ในกรณีนั้น ๆมีความจำเป็นต้องใช้ยาอย่างเร่งด่วน จึงมีแนวโน้มทางการลดอุปสรรคการเข้าถึงถึงยาของประชาชนเป็นการลดช่องว่างในการผูกขาดตลาดยาของบริษัทยาเช่น มาตรการ ซีแอล(CL)
TRIPs + เงื่อนไขหรือข้อผูกมัดใด ๆที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เข็มงวดเกินกว่าสิ่งที่กำหนดไว้ในข้อตกลงทริปส์ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้ยา ไม่สามารถเข้าถึงยาที่ราคาเป็นธรรมได้
ที่ผ่านมา ประเทศไทยและสหภาพยุโรป มีการเจรจา เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม๒๕๕๖ ที่ประเทศ เบลเยี่ยม และกำลังมีการเจรจารอบ ๒ ระหว่างวันที่ ๑๘-๑๙ กันยายน ๒๕๕๖ ณ รร.เลอเมอริเดี่ยน ถ.ลอยเคราะห์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บริเวณ ไนท์บาร์ซาร์
สิ่งที่ประเทศไทยคาดหวัง จากสหภาพยุโรป
๑.การขยายการตลาดเกษตร ซึ่งปัจจุบันราคาสูง
๒.เปิดการลงทุน ในประเทศไทย โดยไทยมีศักยภาพ เช่นร้านอาหารไทย สปา การบริการสุขภาพ ธุรกิจโรงแรม การจัดแสดงสินค้า เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย
๓การลงทุน .การพัฒนาศักยภาพ การแข่งขันสินค้าอุตสาหกรรม เช่นยานยนต์ และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเลคทรอนิคส์
๔.สินค้าคุณภาพจากสหภาพยุโรป( อียู) แทนสินค้าจากประเทศจีน
สิ่งที่ สหภาพยุโรปคาดหวังจากประเทศไทย
๑.การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ที่มากกว่าข้อตกลงทริป.ที่มีอยู่ในองค์การการค้าโลก กาบังคับกฎหมายอย่างเข็มงวด การเพิ่มระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เช่น “ยา”และสิทธิบัตรทางการเกษตร”
๒.การลงทุนด้านการท่องเที่ยว โทรคมนาคม การเงินการธนาคาร การจัดส่งพัสดุไปรษณีย์ การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม และแรงงาน
๓.การคุ้มครองนักลงทุนต่างชาติเทียบเท่านักลงทุนในประเทศไทย
๔.การมีกฎเรื่องแหล่งกำเนิดสินค้า เช่นสินค้ามาจากแหล่งใด วัตถุดิบแหล่งใด แรงงานแหล่งใด เพื่อตรวจสัญชาติของสินค้า และป้องกันการสวมสิทธิของสินค้านอกเขตการค้าเสรีมาสวมสิทธิ์
ข้อกังวล ที่ภาคประชาชนมีต่อคณะเจรจาฝ่ายไทย
แอลกอฮอล์ลปลอดภาษี
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลจะถูนำเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ภาษีต่ำ
การฟ้องร้องของนักลงทุนต่างชาติ
จะมีการฟ้องร้องประเทศไทยจากนักลงทุนต่างชาติ กรณีการคุ้มครองสิทธินักลงทุนไทย
การจดสิทธิบัตรพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์
สหภาพยุโรปต้องการให้ประเทศไทยเป็นสมาชิก ยูปอพ (Upov1991) คือให้สิทธิบัตรการตัดต่อพันธุ์ การใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หากมีการค้นพบสิ่งใหม่ ไทยกสามารถจดทะเบียนได้ แต่ว่าคนไทยยังขาดเทคโนโลยีขั้นสูง เพราะต้องซื้อปัจจัยการผลิตทั้งหมดและผู้บริโภคต้องซื้ออาหารแพง เนื่องจากต้นทุนสูง มันเป็นการผูกขาดการเกษตรอย่างครบวงจร
ระบบหลักประกันสุขภาพสั่นคลอน
๑.การเปิดเสรีการลงทุนด้านสุขภาพ เป็นการลดการดูแลคนไทยเพราะว่าเปิดประเทสเป็นกลางสุขภาพ
๒.มาตราการทรปส์พลัส เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงยาของประชาชน การขยายสิทธิบัตรเพิ่มอีก ๑๕ ปี จากเดิม ๒๐ ปี โดยอ้างการให้สิทธิบัตรยาไทยช้าเลยเพิ่มเป็น ๓๕ ปีเพราะช่วงที่”ยาต้นแบบ” ติดสิทธิบัตร จะไม่มีบริษัทไหนขายยาได้ ทำให้เกิดการผูกขาดอยู่กับบริษัทยาแห่งเดียว
๓.การทำซีแอลยา เป็นมาตรการ องค์การการค้าโลก ประเทศสมาชิกที่ประสบวิกฤตด้านสาธารณสุข สามารถให้รัฐนำเข้าหรือผลิตยาชื่อสามัญมาใช้ในประเทศได้ในขณะที่ยังติดสิทธิบัตรอยู่สหภาพยุโรปบอกว่า “ยาชื่อสามัญ” เป็นยาละเมิดสิทธิบัตร และเข้าข่ายเป็นยาปลอม. ส่งผลให้ทำ CL (ซี แอล ) ยามากขึ้น ทำให้ระบบสุขภาพสั่นคลอนเพราะว่า รัฐต้องจัดสรรงบประมาณนำไปซื้อยาราคาสูงขึ้น หากเงินไม่พอรัฐก็ซื้อยาน้อย ทำให้ประชาชนเข้าถึงยายากและน้อย..
ประชาชนจะทำอะไรวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๖ จะเดินทางจาก ข่วงประตูท่าแพไปยื่นหนังสือต่อคณะผู้แทน เจรจาฝ่ายไทย คือ ดร.โอฬาร ไชยประวัติ และผู้แทน เจรจาฝ่าย สหภาพยุโรป ณ โรงแรมเลอเมอริเดียน ถ.ลอยเคราะห์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่..
ขอได้รับความขอบคุณ จากลุงจ๊าง สันป่าตอง..