• อาจารย์ ปฏิรูปทำได้จริงหรือ เสียงจาก คุณ ชุมพล ศรีสมบัติ ชื่อเล่น ว่าโต นักจัดรายการวิทยุ มัสยิด อัต-ตักวา และรองผู้อำนวยการ ศูนย์กิจกรรมภาคเหนือ มูลนิธิสร้างเสริมสุขมุสลิมไทย คณะกรรมการอิสลามประจำ มัสยิด อัต-ตักวา ผมเดินคุยกับท่านผู้นี้ในระหว่างงานประชุมสมัชชาปฏิรูปประเทศไทยครั้งที่ ๓ โดยบรรยากาศการพูดคุย ก็บอกอยู่ ๒ เรื่อง คือ เรื่องแรกเราต้องเชื่อในเป้าหมายที่เราทำ ว่าเป้าหมายของการปฏิรูปคือการ “สร้างพลังฐานล่างคือฐานรากประชาชน”ให้เข็มแข็งที่ผ่านมาการทำงานปฏิรูปอะไรก็แล้วแต่มันจะเกิดจากแนวคิด นักวิชาการ คนชั้นกลาง นักธุรกิจ ตั้งแต่เรื่อง การเมืองการปกครอง จนกระทั่งการจัดโครงสร้าง กลไกการบริหารทั้งที่มีผลประโยชน์ที่เอื้อต่อคนที่คิด แต่เอื้อคนฐานรากน้อยมาก หรือไม่มีมีเลย เช่นที่เห็นชัดการเปิดเสรีการค้า ใครได้รับผลประโยชน์ ก็มีแค่ นักการเมือง นักการปกครอง นักธุรกิจ ที่ฉ้อแลคิดเพื่อผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ใช้ฐานชาวบ้านเป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ นักการเมืองก็เอาคะแนนตอนลงคะแนน ๓ นาทีไปเป็นสิ่งชอบธรรมทำตามอำเภอใจ ว่าประชาชนมอบหมายให้ตนเองเป็นผู้แทน ข้าราชการ ก็เอากลุ่มชาวบ้านเป็นเกราะป้องกันตัวเอง หรือ เหยียบหรือบันใด ผ่านไปสู่เป้าหมาย ตำแหน่ง หน้าที่ การงาน ตนเอง นักธุรกิจ ก็กอบโกยผลประโยชน์ตนเอง พวกพ้อง เครือญาติ เท่านั้น ประการที่ ๒ มันคือพัฒนาการประชาธิปไตยของประชาชน จากภาคส่วนต่างต่างๆที่มาจากจังหวัด เครือข่ายความเหลื่อมล้ำ ภาคราชการ องค์กรเอกชน ประชาชนทั่วไป จะเห็นไหมว่า คนเหล่านั้นมาจากฐานจังหวัด บางคน ก็มาจากผลกระทบในด้านต่างๆเช่น การปกครอง จากฐานทรัพยากร จากสื่อ แรงงาน การศึกษา เกษตร น้ำ ผู้พิการ ความหลากหลายทางเพศ ผู้สูงอายุ งานสวัสดิการ งานสภาองค์กรชุมชน งาน สภาพัฒนาการเมือง เด็กเยาวชน สตรี องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ทำให้มีเวทีการ พูดคุย การประสาน การฟังเหตุผลกันในการทำงานแก้ไขปัญหาร่วมกัน ที่ผ่านมาคน หรือองค์กร อีกกลุ่มหนึ่งไม่ค่อพูดคุยกัน อาจเป็นเพราะ ขาดข้อมมูลที่แท้จริง โอกาส ท่าที ทัศนคติ เชิงลบ ขององค์กรอีกฝ่าย เช่นนักธุรกิจก็บอกว่า ชาวบ้าน หรือ ภาคประชาสังคม เอ็น. จี. โอ. เป็นพวกขัดขวางความเจริญ จะทำอะไรก็คอยคัดค้าน ยื่นฟ้อง ประจาน ประท้วง ม๊อบ เท่านั้น ภาคประชาชนก็บอกว่า นักธุรกิจ เป็นนักล่ากำไร นักฉกฉวยผลประโยชน์ เห็นแก่ได้ หรือไม่พวกข้าราชการ ก็บอกว่า เอ็น.จี.โอ.หรือภาคประชาสังคม เป็นคู่แข็ง การแย่งชิงทรัพยากร การแย่งชิง คน รายได้ดี ทำงาน มีเงินเดือนมาก เอ็นจี.โอ.หรือ ประชาสังคม ก็มองข้าราชการเป็นพวกดขี่ ข่มเหงรษฏร หรือเลือกปฏิบัติ และคนที่เอื้อผลประโยชน์ให้ สรุปแล้วก็ต่างคนต่างทำ ต่างความคิด ต่ามุมมอง ต่างทัศนคติ แต่งานลักษณะแบบนี้ เป็นการมอง “คนที่ศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ มีคุณค่า ให้เกียรติซึ่งกันละกัน” มีคำสอนทางคริสต์ศาสนา และ อิสลามที่บอกว่า มนุษย์เป็นพระฉายาของพระเจ้า ทุกคนต้องเคารพความเป็นเงาของพระเจ้า หรือพระเยโฮวาห์ผ่านทางมนุษย์ที่เป็นคน นี่แหละคือพัฒนาการอย่างนี้ของกระบวนการสมัชชา....แท้จริงชาวบ้านก็ทำมานานในระดับพื้นที่แต่ไม่ได้ ยกระดับมาทำในระดับชาติ หรือ สาธารณะ นี่คือคำแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ทำให้ผมต้องคิด และงานกระบวนการสมัชชา..จะต้องคิดต่อไป ขอบคุณ..