รายงานสุขภาวะภาคเหนือ “รายงานสานใจสานพลัง ตอน พบองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่แล้วได้อะไร”
รายงานข่าวโดย ลุงจ๊าง สันป่าตอง วัน พฤหัสบดีที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๕.๐๐ น.
เกริ่นนำ สวัสดีครับท่านผู้ผู้ชมผู้ฟังรายการ วิทยุ โทรทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติบรรยากาศนครเชียงใหม่หลังจากการประชุมน้ำ เอเซีย-แปซิฟิค การคมนาคม สะดวกและหน่วยงานราชการเริ่มทยอยกลับสำนักงาน เช่นกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ หลังจากต้องปฏิบัติหน้าที่อารักขา อาคันตุกะจากประเทสต่างต่าง ๆเช่น สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งประเทศบรูไน ประธานนาธิบดี ประเทศ ฟิจิ ประเทศจอร์เจีย และนากรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการชั้นสูงของประเทศต่าง ๆจำนวน ๔๙ ประเทศบนเรื่อง ประชุมสถานการณ์นำและการแก้วิกฤต.. หัวข้อ ภาวะผู้นำภาระผูกพัน ณ ศูนย์ประชุมแสดงสินค้าและนานาชาติ ถ.คันคลองชลประธาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ในเวลาเดียวกัน เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๘.๓๐ น. -๑๖.๓๐ น. มีการ”อบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาองค์ความรู้เรื่องประชาธิปไตยและการกระจายอำนาจจากการบริหารงานส่วนกลางสู่จังหวัดจัดการตนเอง รุ่นที่ ๑” ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ถ.คันคลองชลประทาน หลังศาลากลาง จ.เชียงใหม่ โดยช่วงเช้า มีพิธีเปิด โด ท้องถิ่น จ.เชียงใหม่ กล่าวรายงานโดยประธานการประชุม นาย พงษ์พันธ์ตะติยา จากนั้นท้องถิ่นก็บรรยายพิเศษ เรื่องความร่วมมือขององค์กรท้องถิ่นกับ สภาองค์กรชุมชนตำบล สิ่งที่น่าสนใจจากความเห็นท่าน เรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ส่วนช่วงต่อมาทาง การบรรยายของ นาย ไพรัช ใหม่ชมพู ผุ้อำนวยการสำนักการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ท่านได้ยกเรื่อง
ข้อดีของหน่วยงาน อบจ.เชียงใหม่ ที่มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัด และมีความใกล้ชิดชาวบ้านมาก โดยมีตัวแทน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ส.อบจ.เชียงใหม่ อยู่ในพื้นที่ ๒๕ อำเภอ ณ ปัจจุบัน แต่มีข้อจำกัด ของหน่วยงาน อบจ.เชียงใหม่ คือ ๑. ไม่สามารถบังคับบัญชา ข้าราชการ ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ในจังหวัด สามรถสั่งการได้เฉพาะ สำนักงาน อบจ. เชียงใหม่ ๒.งบประมาณ ไม่สามารถจัดสรรเพียงพอ เพราะมีงบประมาณ แค่ ๙๐๐ กว่าล้านบาท แบ่งเป็นบริหารจัดการ สำนักงาน ๓๐๐ กว่าล้านบาท ที่เหลือมีงบประมาณ พัฒนาท้องถิ่นแค่ ๖๐๐ กว่าล้านบาทแต่โครงการเสนอมาตั้ง ๓,๐๐๐ กว่าล้านบาท ๓.องค์กรนิติบุคคล แต่เวลา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จะ ลา ต้องขออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด ๔.ระเบียบราชการว่าด้วยการจัดอบรม สัมมนา ไม่สามารถจ่ายค่าพาหนะได้ ทั้งที่คนเดินทางมาไกล จ่ายได้เฉพาะ ค่า อาหารและอาหารว่างเท่านั้น ฯลฯ เฉกเช่นเดียวกัน ผู้ว่าราชการไม่สามารถสั่งปรับ เปลี่ยน ย้าย นายอำเภอได้ ต้องให้ กรม กระทรวงเป็นคนสั่งปรับ เปลี่ยน เลื่อน ย้าย เพราะเป็นการรวมศูนย์อำนาจการปกครองส่วนกลาง ตั้งแต่ เรื่อง การบริหารจัดการ การสอบบรรจุข้าราชการการเสนอความดีความชอบ การปรับ เปลี่ยน โยกย้าย สลับตำแหน่ง ส่วนกลางยังเป็นผูกำหนด งบประมาณที่จัดสรรให้ไม่เพียงพอ
ทางออก ทาง จังหวัดต้องจัดการตนเอง โดยการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เรื่องการบริหารงาน การคัดเลือก แต่งตั้งพนักงาน การสลับปรับเปลี่ยน อัตรากำลัง (การเลื่อน ย้าย สลับ ปรับ ) ฯลฯ โดยท้องถิ่นและท้องที่ กำลังพัฒนา ขบวนการภาคประชาชน ที่ เป็น องค์กรสวัสดิการชุมชน สภาองค์กรชุมชน เป็นต้น
สรุป..ที่ประชุมได้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วม ระหว่าง ขบวนองค์กรชุมชน ที่ประกอบไปด้วย ตัวแทน สภาองค์กรชุมชนตำบล องค์กรสวัสดิการชุมชน นักวิชาการ ประชาสังคม และ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น โดยจะมีการกำหนดแผนงาน แผนปฏิบัติงานต่อไป ขอบคุณ
รายงานจาก ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ถ.คันคลองชลประทาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่