ความคืบหน้าเหมืองหินถล่ม _ เนชั่นแชนแนล

ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี วัชรา ตาคำ กับความคืบหน้าเหมืองหินถล่ม จนทับคนงานเสียชีวิต โดยระบุเหมืองนี้เคยถูกแจ้งให้ปรับปรุงมาก่อนหน้านี้ เพราะทำการระเบิดหินไม่ถูกวิธี

สยองเมืองเพชรบุรีภูเขาโรงโม่หินพังถล่มทับรถยนต์ คนงานตาย สยอง 3 ศพ บาดเจ็บอีก 4 หามส่งร.พ. จ้าละหวั่น เผยเหตุเกิดจากฝนตกชะหน้าดินทำให้ถล่มลงมาจากหน้าผาสูงกว่าตึก 20 ชั้น ทั้งรถแบ๊กโฮ รถปิกอัพและ 10 ล้อ จมอยู่ในซากหินในพริบตา หน่วยกู้ภัยกู้ศพสุดทุลักทุเล เพราะกลัวถล่มซ้ำอีก ผู้รอดตายเผยนาทีเกิดเหตุเห็นหินก้อนเล็กๆ เริ่มตกจากหน้าผาก่อน จากนั้นก็พังครืนลงมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผู้ว่าฯ เพชรบุรี ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดทันที



เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. พ.ต.ท. ธีระเดช เดชศิริ สารวัตรเวร สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีเหตุภูเขาถล่มในโรงโม่หินเพชรสมุทร (1970) ตั้งอยู่หมู่ 6 ต.หนองชุมพลเหนือ อ.เขาย้อย มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรายงานพล.ต.ต.พีระชาติ รื่นเริง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.เดชา รักษ์งาม ผกก.สภ. เขาย้อย และประสาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จ.เพชรบุรี รุดไปตรวจสอบ



ที่เกิดเหตุเป็นภูเขาขนาดใหญ่ชื่อเขาอีบิด ภายในมีโรงโม่หินประกอบกิจการอยู่ชื่อ โรงโม่หินเพชรสมุทร ที่เวิ้งหน้าผาสูงประมาณตึก 20 ชั้นห่างจากโรงโม่หินประมาณ 400 เมตร พบซากรถปิกอัพ 3 คัน รถสิบล้อ 10 คัน และรถแบ๊กโฮ 3 คัน ถูกหินและดินจากภูเขาถล่มทับได้รับความเสียหายพังยับเยิน มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถและกองดิน 3 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายสุวิชาติ สุวิญญา อายุ 50 ปี คนขับรถแบ๊กโฮ เป็นคนไทย นายนัย และนายสำมะยู (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นคนงานชาวพม่า



นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี และโรงพยาบาลเขาย้อย ทราบชื่อต่อมาคือนายกำพร้า ลิสิ นายขวัญเมือง ศรีสุข เป็นตนไทย นายนพ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นหัวหน้าชุดขุดเจาะ และนายยาว (ไม่ทราบนามสกุล) ทั้งหมดเป็นคนงานขุดเจาะของโรงโม่หินดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้ความระมัด ระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกรงว่าภูเขาจะถล่มลงมาทับซ้ำ



สอบสวนนายนพชัย ทรารัม อายุ 31 ปี คนงานขับรถแบ๊กโฮ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถแบ๊กโฮอยู่ด้านล่างของภูเขา จากนั้นมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อหันไปดูจึงเห็นหินและดินที่ริมยอดหน้าผาเคลื่อนตัวถล่มลงมาอย่างน่ากลัว จึงรีบขับรถหนี จังหวะนั้นเห็นรถปิกอัพ รถสิบล้อและรถแบ๊กโฮถูกหินฝังต่อหน้าต่อตา ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเพื่อนร่วมงานที่ได้รับบาดเจ็บ ตนและคนงานจึงตั้งสติพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล คาดว่าสาเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากมีฝนตกลงมา เลยทำให้หินบนภูเขาถล่มทับ



ขณะที่นายนิพนธ์ พรหมา อายุ 34 ปี ช่างเครื่องผู้รอดชีวิตอีกราย กล่าวว่า ขณะขับรถปิกอัพเข้าไปเติมน้ำมันรถแบ๊กโฮที่หน้าผา สังเกตหินร่วงลงมาเล็กน้อย จึงร้องเตือนแต่ไม่มีใครเชื่อ ตนจึงรีบขับรถขยับออกมาอีกฟากของหน้าผา ทันใดนั้นเองทั้งหินและก้อนดินก็พังถล่มครืนลงมา



ต่อมาเวลา 09.30 น. นายมณเทียร ทองนิตย์ ผจว.เพชรบุรี นายปราโมทย์ สำเภาเงิน ปลัดจังหวัดเพชรบุรี นายเรวัต ผ่องสุวรรณ ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จ.เพชรบุรี นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ นายอำเภอเขาย้อย นางอรอนงค์ ศิริชัย นายกเทศมนตรีตำบลเขาย้อย เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและเยี่ยมอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ



นายมณเทียรกล่าวว่า เบื้องต้นสั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เพชรบุรี ประกาศให้บริเวณดินถล่มเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยและบริเวณใกล้เคียงเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ พร้อมกับติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้อุตสาหกรรม จ.เพชรบุรี ทำบันทึกถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี สั่งหยุดดำเนินกิจการโรงโม่หินชั่วคราวและลงโทษปรับต่อไป



ส่วนการดำเนินการค้นหาและกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แต่งตั้งให้นายอำเภอเขาย้อยเป็นหัวหน้าทีม โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและกำลังทหารจากกองพันล่าง ร.11 พัน 3 จ.เพชรบุรี กว่า 20 นาย พร้อมปฏิบัติงาน ซึ่งต้องเร่งนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาให้ได้ ส่วนการกู้ซากรถเป็นหน้าที่ของโรงโม่หินที่จะต้องดำเนินการเอง



ด้านนายวิชัย เลาวนิชวิสิทธิ์ เจ้าของและ ผู้จัดการโรงโม่หินเพชรสมุทร กล่าวว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนทำธุรกิจนี้มานาน ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน สำหรับ ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทางโรงงานยินดีรับผิดชอบทั้งหมด



ต่อมาเวลา 12.50 น. นายวิสาห์นำกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญและทหาร นำเครื่องมือตัดถ่างเข้าไปช่วยกันงัดร่างนาย สุวิชาติออกมาจากรถแบ๊กโฮได้สำเร็จ ส่วนศพที่เหลือเจ้าหน้าที่จะได้เร่งช่วยเหลือต่อไป



วันเดียวกัน ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) มีคำสั่งปิดโรงโม่หินเพชรสมุทรชั่วคราว 30 วัน เพื่อตรวจสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงให้โรงโม่ทำแผนในการสร้างความปลอดภัยในองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อน



นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ กพร.ไปตรวจสอบโรงโม่หินทั่วประเทศ เนื่องจากช่วงฤดูฝนจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะดินและหินถล่มลง พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโรงโม่หิน และมีเหมือง หินอยู่บนที่สูงที่มีความเสี่ยงอาจจะเกิดถล่มเหมือนกรณีของโรงโม่หินเพชรสมุทรอีก 5-6 แห่ง ใน จ.สระบุรี เชียงราย และยะลา ซึ่งหากไม่มั่นใจในความปลอดภัยก็จะให้ผู้ประกอบการหยุดการระเบิดหินชั่วคราวให้ช่วงฤดูฝนทันที



"กรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2535 ที่สระบุรี ซึ่งที่ผ่านมา กพร.ได้มีการทำหนังสือหรือส่งเจ้าหน้าที่ไปแนะนำผู้ประกอบการเป็นประจำให้ระมัดระวังในการทำธุรกิจ เพราะจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงอันตรายต่อชีวิต ซึ่งในช่วงฤดูฝนจะมีความเสี่ยงมากที่สุด"นายวิฑูรย์กล่าว



ต่อมาเวลา 17.00 น. นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม พร้อมคณะเดินทางมายังที่เกิดเหตุ โดยมีนายมณเฑียร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจากหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องและนายวิชัย เจ้าของโรงโม่หิน หจก.เพชรสมุทร ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



นายประเสริฐกล่าวว่า เจ้าของกิจการต้องรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้น สำหรับโรงโม่หินแห่งนี้ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมและการเหมืองแร่เขต 7 รวมทั้งอุตสาหกรรมจังหวัด เข้ามาตรวจสอบเป็นระยะอยู่แล้ว เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเรื่องฝุ่นละอองและปัญหาเสียงที่เกิดขึ้นจากการระเบิดหิน โดยเจ้าหน้าที่ก็เคยเตือนระวังอันตรายในจุดที่ถล่มมาแล้ว โดยมีการเตือนถึง 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดเตือนเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็มาเกิดเหตุจนได้



"เมื่อเกิดเหตุขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ท้องที่จ.เพชรบุรี ได้ออกคำสั่งให้ปิดเหมืองหินดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งทำต่อเนื่องในเรื่องผลกระทบของสิ่งแวดล้อมและปัญหาเสียงดังควบคู่ไปด้วย เพราะมีประชาชนร้องเรียนมามาก" นายประเสริฐ กล่าว



นายประเสริฐกล่าวต่อว่า การทำเหมืองทุกเหมืองจะต้องมีวิศวกรคอยควบคุมดูแลเรื่องความปลอดภัยและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กรณีนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ โดยมีผู้ว่าฯ เป็นประธาน และต้องตรวจสอบว่าแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบความผิดจะมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และอำนาจสุดท้ายอยู่ที่รมว.อุตสาหกรรม ที่มีสิทธิ์ประกาศเพิกถอนประทานบัตรในการประกอบการได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างคณะนายประเสริฐลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้มีชาวบ้านที่อาศัยใกล้โรงโม่หินกว่า 40 คน รวมตัวกันชูป้ายเรียกร้องให้ยกเลิกทำเหมืองหินบริเวณเขาอีบิดทั้งหมด เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 20 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาได้รับผลกระทบทั้งเรื่องฝุ่นละอองและเสียงระเบิดหินมาตลอด



โดยนายธเนศ ให้นุช อายุ 37 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการทำโรงโม่หิน ทั้งเรื่องฝุ่นและเสียงระเบิด ที่สำคัญ การอนุญาตให้ทำเหมืองหินบริเวณเขาอีบิด ทำให้ธรรมชาติที่ในอดีตที่เคยสวยงามหมดไป ชาวบ้านคัดค้านการออกใบสัมปทานเหมืองหินบริเวณเขา อีบิดมากว่า20 ปี คือตั้งแต่เริ่มการให้สัมปทานทำเหมืองหินเลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่เป็นผล



"เขาอีบิดลูกนี้ถูกจัดสรรเป็นพื้นที่จับจองเพื่อจะขอสัมปทานเกือบทั้งหมด แต่ทุกบริษัทยังอยู่ระหว่างการขอสัมปทาน ซึ่งชาวบ้านก็คัดค้านมาตลอดเช่นกัน ซึ่งเขาลูกนี้มีชาวบ้านอาศัยอยู่โดยรอบรวม 4 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมด ที่ผ่านมา ชาวบ้านร้องเรียนอย่างไรก็ไม่เป็นผล ยังมีการให้สัมปทานและก่อให้เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่อง และก่อนจะเกิดเหตุการณ์หินถล่มทับคนงานครั้งนี้ ก็ยังมีการระเบิดหินเช่นเคย พวกเราขอเรียกร้องให้ยกเลิกการให้สัมปทานทำเหมืองหินอุตสาหกรรมบริเวณเขาอีบิดทั้งหมด" นายธเนศกล่าว