ในช่วงนี้ทุ่งนาในพื้นที่อำเภอหนอหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรีกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว
ตอซังฟางข้าว เป็นผลผลิตเหลือจากการเกี่ยวข้าวที่สามารถใช้ประโยชน์ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ถ้าเกษตรกรรู้จักวิธีบริหารจัดการ
ชาวนาที่นี่ส่วนใหญ่จะขายฟางให้กับนายทุน ที่รับซื้อแล้วอัดฟางเป็นก้อนเพื่อนำไปขายเป็นอาหารสัตว์โดยรับซื้อในราคาไร่ละ30-50 บาท และมีชาวนาเพียงบางรายที่เก็บไปใช้สำหรับคลุมดินเพาะปลูกพืช แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเผาตอซังและฟางข้าวทิ้ง เพราะต้องการเตรียมแปลงนาให้พร้อมสำหรับการหว่านข้าวในครั้งต่อไปให้เร็วที่สุด
ที่อำเภอหนองหญ้าไซ ตำบลหนองโพธิ์ ตำบลหนองหญ้าไซ อยู่ในพื้นที่รับน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนกระเสียว สามารถทำนาได้อย่างน้อยปีละ3 ครั้งหรือบางช่วงปีน้ำมากจะทำนาได้2ปี7ครั้ง
ชาวนาบางรายเตรียมแช่ข้าปลูกเอาไว้ก่อนเกี่ยวข้าวด้วยซ้ำเพราะเกี่ยวข้าวเสร็จจะจ้างเครื่องจักรกลมาเตรียมแปลงนาเพียงไม่กี่วันก็สามารถหว่านข้าวได้เลย ยิ่งใช้เวลาอย่างต่อเนื่องเวลาของการงอกงามของต้นข้าวชุดใหม่ก็จะเริ่มต้นขึ้น ระยะเวลาที่ชาวนาจะได้รับเงินก็ใกล้เขามา นับถอยหลังมาอีกไม่เกิน 110วันต่อจากนี้ไป
ไปสอบถามชาวบ้านว่าทำไมต้องเผาตอซังฟางข้าว ก็จะได้คำตอบเหมือนๆกันว่า “ต้องเผา”เพื่อจะสะดวกในการเตรียมแปลงนา เวลาไถพรวนดิน ผานของรถไถจะเข้าเนื้อดินได้ลึก ทำให้ดินไม่แน่น รากข้าวหาอาหารหาปุ๋ยกินง่าย ข้าวเจริญเติบโตได้ดี แต่ถ้าไม่เผาตอซังฟางข้าวก็จะมีปัญหาไถพรวนไม่เข้า ขนาดใช้รถไถขนาดใหญ่ก็ยังไถพรวนไม่เข้า บางรายเอาน้ำไส่แปลงนาใช้รถตีดินไถพรวนเพื่อย่นระยะเวลาเตรียมแปลงนาก็เจอปัญหาเดียวกันคือ “ฟางไปอุดขวางผานรถไถหรือไปยัดผานรถตีดิน)
และถ้าไม่เผาตอซังฟางข้าวจะเก็บไว้ทำปุ๋ยหมักก็จะเจอปัญหาความไม่สะดวก การเพิ่มงานเพิ่มภาระชาวนาชาวนาไม่มีเวลารอคอย
ที่สำคัญมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาปิดเปิดน้ำตามมติคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนกระเสียว และจะขัดธรรมเนียมปฏิบัติของพื้นที่ ที่ชาวบ้านที่แปลงนาอยู่เขตต้นน้ำต้นคลองเขตปลายน้ำปลายคลอง ตามลักษณะภูมิประเทศ แปลงนาเขตต้นน้ำต้องรีบเตรียมแปลงและหว่านให้เสร็จโดยเร็วก่อนจะเปิดน้ำทิ้งเพื่อให้ข้าวงอก และเปิดโอกาสให้แปลงนาที่อยู่ในพื้นที่ปลายน้ำปลายคลองเตรียมแปลงบ้าง เพราะถ้าแปลงนาปลายน้ำปลายคลองหว่านเสร็จก่อน แปลงนาต้นน้ำจะปล่อยน้ำไปไม่ได้เพราะจะไปท่วมข้าวงอก ต้นข้าวจะเน่าเสีย นี่คือหลักปฏิบัติของชาวนาที่เกิดจากภูมิปัญญาและกรอบความคิดของคนในชุมชน