คม ชัด ลึก (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 แพทยสภาเล็งชง สธ.ออกประกาศกระทรวงเปิดทางตรวจเอชไอวีในเด็กวัยรุ่น เร่งหาข้อสรุปช่วงอายุ คาดเสนอ รมว.ได้มิถุนายนนี้ ศ.น.พ.สมศักดิ์ โล่เลขา ที่ปรึกษาแพทยสภาประธานอนุกรรมการพิจารณาแนวทางปฏิบัติการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีในบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปี โดยไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครองว่า แพทยสภาจะเสนอเรื่องให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นผู้ดำเนินการต่อ เพื่อออกเป็นประกาศกระทรวง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนาม แต่ในเนื้อหาของร่างจะดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการแพทยสภา อาจจะต้องกำหนดอายุในการตรวจหาเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป ขณะที่อีกความเห็นระบุว่า ควรตรวจตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป ขณะนี้กรรมการแพทยสภาต้องหารือเพื่อกำหนดอายุที่แน่ชัด ก่อนที่นายกแพทยสภาจะเสนอให้ สธ.พิจารณาต่อไป ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหามากนักเพราะปัจจุบันสิทธิการรักษาจากระบบหลักประกันสุขภาพก็มีความครอบคลุมเด็กที่ไม่มีรายได้ อยู่แล้ว “ขณะนี้แพทยสภาเห็นควรว่าจะต้องเสนอให้ สธ.ออกเป็นประกาศกระทรวงแทนข้อบังคับแพทยสภา เนื่องจากการลงความเห็นครั้งล่าสุดพบว่า แพทย์ยังมีความกังวลเรื่องของการถูกดำเนินคดีและฟ้องร้อง และที่สำคัญเห็นว่า เรื่องของการตรวจสุขภาพเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้น มีความเชื่อมโยงทั้งร่างกายและจิตใจของ เด็กและผู้ปกครอง จึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด” ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภา กล่าวว่า เบื้องต้นกรรมการแพทยสภาขอเวลาในการหาข้อสรุปก่อนว่าจะสามารถกำหนดอายุของผู้ที่มีสิทธิ์ตรวจอยู่กี่ปี และจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจเด็กและผู้ปกครองน้อยท ี่สุด เช่น จะกำหนดขอบเขตของการเก็บข้อมูลผู้ป่วยได้ด้วยวิธีใดบ้าง และหาทางรักษาอย่างไรเพื่อให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตในสังคมได้โดยไม่รู้สึกแตกต่าง รวมทั้งทำข้อเสนอในเรื่องของการระบุอาชีพต้องห้ามของผู้ติดเชื้อด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้อื่น เช่น อาชีพประกอบอาหารก็ไม่ควรทำ เพราะเสี่ยงต่อการถูกมีด หรือของมีคมบาทมือแล้วเลือดติดภาชนะหรืออาหารได้ ก็นับว่าเสี่ยงต่อการติดต่อของเอชไอวี ซึ่งในต่างประเทศเกิดขึ้นมาแล้ว “หากได้ข้อสรุปที่ลงตัวแล้วว่าจะเสนอให้ตรวจได้ในอายุเท่าใด ก็จะเสนอให้ รมว.สธ.รับทราบต่อไป คาดว่าจะเสนอได้ราวเดือนมิถุนายนนี้ ที่ผ่านมา สธ.มีการรณรงค์ให้ป้องกันเอดส์และเอชไอวีอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นที่ประเด็นการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการบริการเชิงส่งเสริมสุขภาพแล้ว ก็อยากฝากให้ สธ.เน้นที่เรื่องการตรวจคัดกรองเพื่อดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงทีต่อไป เพราะสุขภาพวัยรุ่นก็สำคัญไม่แพ้วัยผู้ใหญ่” ศ.คลินิก นพ.อำนาจกล่าว