สกู๊ปพิเศษ : สาธารณสุขไทย ติดอันดับ 3 ของโลก มีความก้าวหน้าจัดการปัญหาโรคไม่ติดต่อ
นับว่าเป็นข่าวดีที่ "กระทรวงสาธารณสุข" หรือสธ. ออกมาเปิดเผยว่า "องค์การอนามัยโลก" หรือ World Health Organization ตัวย่อ WHO จัดอันดับให้ "ประเทศไทย" มีความก้าวหน้าการดำเนินงานจัดการสถานการณ์ปัญหา "โรคไม่ติดต่อ" เป็นอันดับ 3 ของโลก ร่วมกับ "ประเทศฟินแลนด์"และ"ประเทศนอร์เวย์" และยังเป็น "อันดับ 1 ของอาเซียน" อีกด้วย
สำหรับ "โรคไม่ติดต่อ" หรือเรียกย่อว่า "เอนซีดี" (Non-communicable disease, NCD) คือโรคที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคจึงติดต่อไม่ได้ด้วยการสัมผัสคลุกคลี หรือติดต่อผ่านตัวนำโรค (Vector) หรือผ่านทางสารคัดหลั่งต่างๆ มักเป็นโรคเรื้อรัง ค่อยๆมีอาการและอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆทีละน้อยเมื่อไม่ได้รับการดูแลรักษาควบคุม เช่น โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูงโรคมะเร็ง โรคทางพันธุกรรม โรคไตเรื้อรัง และโรคสมองเสื่อมจากสาเหตุต่างๆ (เช่นโรคอัลไซเมอร์)
ล่าสุด "ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย "นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข" ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) ครั้งที่ 1/ 2561 เพื่อรับทราบความก้าวหน้าการทำงานประเด็นยุทธศาสตร์ต่าง ๆ และพิจารณาการเตรียมการรับการติดตามความก้าวหน้าจากคณะทำงานด้านโรคไม่ติดต่อขององค์การสหประชาชาติ (UNIATF)
โดย ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล กล่าวว่า ประเทศไทยมีการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง และตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน
แผนการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) โดยองค์การอนามัยโลกได้จัดอันดับ
ให้ไทยมีความก้าวหน้าการดำเนินงานจัดการสถานการณ์ปัญหาโรคไม่ติดต่อเป็นอันดับ 3 ของโลกร่วมกับประเทศฟินแลนด์และนอร์เวย์ และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน โดยคณะทำงานด้านโรคไม่ติดต่อขององค์การสหประชาชาติ (UNIATF) จะมาติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อของไทย ตามข้อตกลงในปฏิญญาของสหประชาชาติว่าด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่ตั้งเป้าลดการตาย
ก่อนวัยอันควรจากโรคเหล่านี้ลงร้อยละ 25 ภายในปี2568 และลดลง 1 ใน 3 ภายในปี 2573 ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในวันที่ 28 - 30 สิงหาคม 2561
ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล กล่าวต่อว่า กลุ่มโรคไม่ติดต่อยังคงเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของประเทศไทยและทั่วโลก ทั้งจำนวนการเสียชีวิตและภาระโรคโดยรวม หากไม่มีการจัดการอย่างจริงจัง อาจเกิดผลกระทบรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของประชากรทุกกลุ่มวัยซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
โดยกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งรัดการดำเนินการจัดการปัญหาโรคไม่ติดต่ออย่างต่อเนื่อง ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค เพื่อชะลอการเกิดผู้ป่วยรายใหม่ ลดภาวะแทรกซ้อน ให้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนแผนการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ 5 ปี (พ.ศ.2560 - 2564) ได้ดำเนินการตาม 6 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
1.พัฒนานโยบายสาธารณะและกฎหมายที่สนับสนุนการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อ อาทิ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ห้ามผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย น้ำมันและอาหารที่มีส่วนประกอบของกรดไขมันทรานส์ ยุทธศาสตร์เกลือและโซเดียม ภาษีน้ำตาลสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice) การปฏิบัติตามกฎหมายบุหรี่และสุรา
2.เร่งขับเคลื่อนทางสังคมสื่อสารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์ สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ
3.การพัฒนาศักยภาพชุมชน/ท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย เช่น คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ตำบลจัดการสุขภาพ สถานประกอบการปลอดโรคปลอดภัย
4.พัฒนาระบบเฝ้าระวังและการจัดการข้อมูลมีศูนย์ข้อมูลกลางเชื่อมโยงทุกระดับ ระบบเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อและปัจจัยเสี่ยงระดับองค์กรและกลุ่มประชากรเฉพาะ
5.ปฏิรูปการจัดบริการเพื่อลดเสี่ยงและควบคุมโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์โรคและบริบทพื้นที่เช่นคลินิกโรคไม่ติดต ่อเรื้อรังในโรงพยาบาลทุกระดับทีมหมอครอบครัว
และ6.พัฒนาระบบสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างบูรณาการ
ที่มา : สยามรัฐ
|
|