มติชน ฉบับวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

          นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดไอโอวา 2011 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งพบผู้ป่วย 18 ราย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ว่า จากการติดตามข้อมูลพบว่า ได้มีการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อดังกล่าว ปรากฏว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ที่มีการพัฒนาและผสมพันธุ์ออกมาจาก 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย สารพันธุกรรมจากไวรัสที่เกิดในหมู ไข้หวัดใหญ่ 2009 และไข้หวัดใหญ่ H3N2 ซึ่งจากการสืบประวัติพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสกับหมู มีเพียงผู้ป่วยรายหลัง 3 รายที่ไม่มีประวัติ

          อย่างไรก็ตาม สำหรับความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ไอโอวา 2011 ไม่ได้แตกต่างจากไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และเมื่อเทียบกับไข้หวัดใหญ่2009 ยังรุนแรงกว่า ไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่น เพราะแนวทางการรักษาเหมือนไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ผู้สื่อข่าวถาม ว่า แนวโน้มไข้หวัดใหญ่ไอโอวา 2011 จะมาประเทศไทยในปี 2555 ได้หรือไม่

          นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า หากถามว่ามีโอกาสมาถึงประเทศไทยหรือไม่ ย่อมเป็นไปได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องควบคุมให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ซึ่งปัจจุบัน คร.มีระบบการเฝ้าระวังที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ในแถบภูมิภาคนี้ รวมทั้งยังได้คณะทำงานยุทธศาสตร์และวิชาการเพื่อป้องกันควบคุมโรคและภัย สุขภาพ ในการดูแลเรื่องนี้

          นพ.คำนวน อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คร.กล่าวว่า เชื้อไอโอวา 2011 ไม่ได้รุนแรง ขณะที่เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 มีความรุนแรงกว่า โดยข้อมูลผู้ป่วยในปี 2009 พบราว 120,000 ราย ปี2010 พบ 110,000 ราย และปี 2011 พบผู้ป่วย50,000 ราย โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 313 ราย ดังนั้น ในปีหน้ายังต้องเฝ้าระวังโรคนี้ รวมไปถึงไข้หวัดใหญ่ทั่วไป โดยเฉพาะช่วงเดือนมกราคม ประชาชนจะมีการเคลื่อนย้ายออกนอก พื้นที่ ทั้งการไปเที่ยวพักผ่อน หรือการทำกิจกรรมต่างๆ ก็จะมีการรวมตัวกัน ตรงนี้อาจติดเชื้อหวัดได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญทุกคนต้องดูแลตัวเอง หากเริ่มป่วยต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษา