คอลัมน์: มองมุมสูง: ผู้หญิง...แถวหน้า โดย ป้าเอง ไทยโพสต์
อายุเข้าใกล้เลข 6 ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องละหยุดหายใจ ถึงใครอยากจะหายใจให้นานที่สุดก็ตาม ...จริงแท้แน่นอน???
แต่ตอนนี้เมื่อยังมีลมหายใจ ลองสังเกตชีวิตประจำวันของตัวเองหรือเปล่าว่า ...งานหลักและบ่อยมากในระยะหลังๆ นี้ คือไปงานสวดพระอภิธรรมไม่วัดใดก็วัดหนึ่ง แถมเรายังเป็นผู้หญิงต้องนั่งอยู่แถวหน้าฟังพระสวดด้วยอีกต่างหาก
ก็แหม..เราอายุใกล้เลข 6 พ่อแม่ พี่ๆ ของเรา หรือญาติมิตรของเราก็น่าจะขยับไปเลข 7 ถึงเลข 8 แล้ว ว่าด้วยวัยวุฒิแล้ว เราก็พอวัดวาที่จะนั่งเป็นประธานงานสวดศพได้แล้ว..นะจ๊ะ
ไม่ปลงก็ต้องฝึกปลงไว้บ้างก็จะดี ถือเป็นการเตรียมตัวตายไว้แต่เนิ่นๆ ว่าด้วยการเตรียมตัวตาย หลังจากมีกฎหมายมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ ที่เราสามารถเขียนหนังสือแสดงเจตจำนงเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิตได้นั้น ดูเหมือนว่าเราจะได้ยินได้ฟังเรื่องราวของผู้วายชนม์ ที่ขอตายอย่างสงบแบบธรรมชาติเพิ่มขึ้น แต่บางครั้งความต้องการของผู้ป่วยหรือพ่อแม่ญาติพี่น้องมักจะถูกปฏิเสธ ด้วยความรู้สึกของ "คนอยู่" ทั้งๆ ที่คนไม่อยากอยู่หรือรู้สึกว่าอยู่มานานแล้ว ไม่อยากให้ยื้อชีวิตอีกต่อไป
ใครที่กำลังอยู่ในสถานการณ์นี้ลองอ่านสิ่งที่ "พระไพศาล วิสาโล" เขียนเตือนสติ แล้วคิดตามนะคะ.................
มีคนจำนวนไม่น้อยที่เมื่อพบว่าพ่อแม่ป่วยหนักอยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิต เขาทำใจไม่ได้ที่จะให้ท่านตายตามวิถีธรรมชาติหรือตามจังหวะของสังขาร แต่จะทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อชีวิตท่านให้ยืนยาวมากที่สุด
ในขณะที่พี่น้องที่ดูแลท่านมาแต่แรกโดยตลอด รู้ดีว่าการยื้อชีวิตอย่างนั้นเป็นการทรมานคนไข้ เพราะต้องเจาะคอ ใส่ท่อ ใช้เครื่องช่วยหายใจ ปั๊มหัวใจ สารพัดที่คนที่ดูแลพ่อแม่มาตลอดตระหนักดีว่า หากท่านจากไปอย่างธรรมชาติ นั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับท่าน
แต่คนที่ไม่เคยมีเวลาให้กับพ่อแม่เลย เมื่อจังหวะนี้มาถึง เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ท่านจากไปอย่างธรรมชาติ แต่เขาจะยื้อเอาไว้ให้ได้นานที่สุดในนามของความกตัญญู แล้วก็ไม่ตระหนักเลยว่าการทำเช่นนั้นทำให้ท่านทุกข์ทรมานอย่างไรบ้าง
บางทีท่านส่งสายตาวิงวอน เพราะพูดไม่ได้ แต่ถึงตอนนั้นใครๆ ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะว่าหากถอดท่อหรือปิดเครื่อง ก็ไม่มั่นใจว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นปาณาติบาตหรือไม่
ดังนั้น จึงต้องยื้อไปเรื่อยๆ ทั้งนี้เพียงเพื่อตอบสนองความรู้สึกของลูกว่าได้ทำดีที่สุดแล้วกับพ่อแม่ ทั้งๆ ที่ตอนที่ท่านยังสุขสบายดีอยู่ ลูกกลับไม่มีเวลาให้ท่านเลย ครั้นท่านป่วยและพร้อมจะตายกลับพยายามยืดชีวิตท่าน กลายเป็นการเพิ่มหรือยื้อความทุกข์ทรมานของท่าน
วันนี้ถ้าพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ยังมีชีวิตอยู่ ก็หาเวลาที่เหลือน้อยนี้ไปดูแลท่าน พอถึงเวลาที่ท่านขอไปอย่างสงบเป็นนาทีสุดท้าย จะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ.
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2683734 รูปประกอบ จาก internet
|