สสจ.ขอนแก่นลงพื้นที่ตรวจประเมินสถานที่พัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จจากสารสกัดกัญชา ใช้รักษาโรคกรณี จำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายโรคมะเร็ง
เภสัชกรเชิดชัย อริยานุชิตกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เภสัชกรหญิงวีรวรรณ รุจิจนากุล หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคฯ และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคฯ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจประเมินสถานที่ก่อนขอรับอนุญาตผลิตซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชา โดยมีกรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ขอรับใบอนุญาต และมีสถานที่ผลิต คือ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและมีวัตถุประสงค์ในการขอรับอนุญาตเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จจากสารสกัดกัญชา ใช้รักษาโรคกรณี จำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายโรคมะเร็ง (Special access scheme for cancer patients) ซึ่งผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำมันกัญชาหยอดใต้ลิ้น และน้ำมันกัญชาชนิดเหน็บทวาร
กก.ควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสั่งปิด 2 ด่านถาวร - 36 ด่านธรรมชาติ สกัดโควิดเมียนมาเข้าไทย
ที่กระทรวงสาธารณสุข นายธนิตพล ไชยนันท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากเมียนมาเข้ามาประเทศไทย ว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมทั้งส่วนสาธารณสุข ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเมียนมาที่จะเข้ามายังไทย โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีคำสั่งให้ปิดด่านถาวร ทั้ง 2 ด่านและ 36 ด่านธรรมชาติทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ 560 กิโลเมตรตลอดชายแดน 5 อำเภอจังหวัดตาก
นายธนิตพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ คือ มาตรการที่ 1 . กระทรวงสาธารณสุข จะยกระดับจากเดิมที่มีการระบาดเฝ้าระวังการนำเชื้อเข้าประเทศทางอากาศ มาเป็นการเฝ้าระวังเข้มข้นทางบก และสนับสนุนเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ไปยังโรงพยาบาลบริเวณชายแดนเรียบร้อยแล้ว
มาตรการที่ 2 การสนับสนุนเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ ไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด (สสจ.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) ในพื้นที่ติดชายแดน คาดว่าจะลงไปถึงพื้นที่ภายในไม่กี่วันนี้ สำหรับมาตรการการป้องกันได้มีการสร้างภาคีเครือข่ายภายในที่ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลหมู่บ้าน ในการตรวจสอบคนเข้ามายังพื้นที่ รวมถึง ฟื้นฟูอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อช่วยกันสนับสนุนตรวจสอบเฝ้าระวังและ และมาตรการที่ 3 จัดส่งชุดเคลื่อนที่เร็วจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนในพื้นที่หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาหรือแม้กระทั่งพบผู้ติดเชื้อที่ข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยชุดเคลื่อนที่เร็วจะมีอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือภาคีเครือข่ายในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัยรวมถึงประชาชนได้รับความปลอดภัยเช่นเดียวกัน
ด้าน นพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง ผอ.สถาบันควบคุมโรคเขตเมือง(สปคม.) กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สปคม.ได้ร่วมกับพื้นที่แม่สอดในการนำรถพระราชทาน 5 คันออกตรวจ Active case finding ที่อ.แม่สอด จ.ตาก ระหว่างวันที่ 8-9 ก.ย.2563 รวมทั้งสิ้น 2,635 คน แบ่งเป็นคนไทย 1,641 คน และต่างด้าว 994 คน ซึ่งคาดว่าจะทราบผลใน 24-48 ชั่วโมง และจะทำให้ประเมินได้ว่าสถานการณ์แม่สอดมีการระบาดหรือการติดเชื้อโควิดหรือไม่อย่างไร แต่จากการติดตามความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัยทำให้ทราบว่า อย่างฝั่งเมียนมา จากการประเมินพบ 98% ให้ความร่วมมือดี ส่วนฝั่งไทยให้ความร่วมมือ 95% ขณะนี้ยังได้จัดทีมกว่า 300 คน คอยประจำตามชายแดน ทำหน้าที่เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อโควิด ส่วนคนที่ถูกเก็บตัวอย่างก็จะมีการกักกันตัวไว้ ขณะที่สถานการณ์ฝั่งเมียนมามีการตรวจเชื้อและกักกันตัวเช่นกัน