ผู้ใช้สิทธิบัตรทอง หากมีอาการเข้าข่ายสงสัยป่วยโรคโควิด-19 ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข สามารถเข้ารักษา รพ.ตามสิทธิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
แต่หากอาการไม่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ แต่อยากทราบว่าติดเชื้อหรือไม่ ไม่แนะนำให้ไปขอตรวจเอง จะเพิ่มความเสี่ยงรับเชื้อโดยไม่จำเป็น ใช้สิทธิบัตรทองไม่ได้
โดยผู้ที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)นั้น ต้องมีอาการดังนี้
1.ผู้ป่วยที่มีประวัติไข้ หรือวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเร็ว หรือหายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก) และมีประวัติในช่วง 14 วัน ก่อนวันเริ่มมีอาการ หรือ
- มีการเดินทางไปหรือมาจากต่างประเทศ หรือ อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการรายงานการระบาดต่อเนื่องของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ
- เป็นผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวที่มาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดต่อเนื่องของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ
- มีประวัติใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
2.ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้ และมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ที่สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
3.ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้ และเป็นบุคลากรทางการแพทย์
4.ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบเฉียบพลันชนิดรุนแรงที่หาสาเหตุไม่ได้
สอบถามเรื่องสิทธิบัตรทอง โทรสายด่วนสปสช.1330 สอบถาม ปรึกษา คำแนะนำเรื่องข้อมูล อาการเสี่ยง อาการโรค COVID-19 โทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

เลขาธิการ สปสช. ชื่นชมศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เครือข่ายผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ต่อยอดการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ด้วยการก่อตั้ง “ศูนย์ประสานงานฯ” เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพ
วันที่ 4 มีนาคม 2563 ณ ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เครือข่ายผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ นายแพทย์ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. ติดตามการดำเนินงานศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน พร้อมมอบป้ายศูนย์ฯ รวมถึงรับฟังการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ และการบริหารจัดการค่าบริการสาธารณสุขสำหรับที่มีภาวะพึ่งพิง พร้อมเยี่ยมผู้สูงอายุที่มีภาวะติดบ้านติดเตียงในพื้นที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดย นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และคณะ พร้อมด้วย นายแพทย์อุดม อรุณรุ่งศรี ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 7 ขอนแก่น และคณะผู้บริหาร, เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
นายจารุวัฒน์ กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2562 เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ มีประชากรทั้งหมด 33,531 คน พบว่ามีผู้สูงอายุจำนวน 5,469 คน คิดเป็นร้อยละ 16.31 ของประชากรทั้งหมด จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่น ถูกทอดทิ้ง ถูกละเลย ขาดการดูแลเอาใจใส่ ประกอบกับวัยสูงอายุมีภาวะสุขภาพเสื่อมลง มีโรคทางกายเพิ่มมากขึ้น มีภาวะซึมเศร้าและความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองลดลงจนเกิดความรู้สึกสิ้นหวัง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะสุขภาพกายและจิตของผู้สูงอายุโดยตรง ส่งผลให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตแย่ลง หากผู้ป่วยได้รับการดูแลที่เหมาะสม มีการส่งเสริมสุขภาพ ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากบุตรหลาน ได้รับการบริการจากหน่วยงานของรัฐ หรือภาคเอกชน อยู่ในสังคมที่เอื้ออาทร จะทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น นายจารุวัฒน์กล่าว