Sub Navigation Links

รายงานข่าวสุขภาวะ ภาคใต้ สานใจสานพลัง 14 พฤศจิกายน 2562 ตอน พัฒนาการรับบริจาคปลูกถ่ายอวัยวะของไทย : ชัยวุฒิ เกิดชื่น

* * *ชัยวุฒิ_เกิดชื่น รายงานข่าวสุขภาวะภาคใต้ รายงานข่าวสุขภาวะ_สานใจสานพลัง ปลูกถ่ายอวัยวะ คสช. อนุทิน_ชาญวีรกูล ประทีป_ธนกิจเจริญ สังคมสูงวัย บริจาคอวัยวะ* * *
Facebook
download

โดย: webmaster

จำนวนผู้ฟัง: 3136

โดย: webmaster

จำนวนผู้ฟัง: 3229

โดย: webmaster

จำนวนผู้ฟัง: 3088

โดย: webmaster

จำนวนผู้ฟัง: 3039

ณ. ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 4/2562 ในช่วงแรก หลังจากนั้นได้มอบให้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมต่อ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานจากภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อจัดทำข้อเสนอการพัฒนานโยบายและระบบรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะของไทย เล็งเพิ่มยอดการบริจาคอวัยวะและปลูกถ่ายไตอีกเท่าตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล ประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุม คสช. วันนี้ มีการพิจารณาหลายระเบียบวาระ ที่สำคัญคือได้พิจารณาข้อเสนอของสมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย และศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ที่เสนอให้มีการพัฒนานโยบายและระบบการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะของไทยให้มีประสิทธิภาพ เป็นมืออาชีพมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายการปลูกถ่ายอวัยวะที่จะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคตอย่างรวดเร็ว และเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานร่วมจากภาคีที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา สภากาชาดไทย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม กรมบัญชีกลาง โรงพยาบาลของรัฐและของเอกชน ชมรมพยาบาล และเครือข่ายผู้ป่วย โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และเลขาธิการ คสช. เป็นประธาน เพื่อทำข้อเสนอดังกล่าวให้เสร็จภายใน 3 เดือน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล . กล่าวว่า “ผมสนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะของไทยให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพราะนอกจากจะเกิดผลดีต่อระบบบริการสาธารณสุขและผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคไต และโรคตับโดยตรงแล้ว ยังเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงศักยภาพทางการแพทย์ระดับสูงของไทย และบอกถึงความมีจิตสาธารณะขั้นสูงสุดของคนไทย นพ.สุรสีย์ พร้อมมูล นายกสมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา งานปลูกถ่ายอวัยวะได้ก้าวหน้าไปอย่างมากมาย เช่น จากเดิมปลูกถ่ายไตได้ปีละประมาณ 200 ราย ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็นปลูกถ่ายไตได้ปีละกว่า 700 ราย ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลมากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน สามารถทำงานกลับคืนสู่สังคมและอยู่ร่วมกับครอบครัวได้อย่างมีความสุข

“ปัญหาของระบบปลูกถ่ายอวัยวะของไทยในขณะนี้ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการระบบรับบริจาคอวัยวะ การสนับสนุนทีมศัลยแพทย์ผ่าตัดนำอวัยวะออก การจัดสรรอวัยวะที่ได้รับให้เป็นธรรม และงบประมาณสนับสนุนที่เพียงพอจากสามกองทุนของรัฐและการมีส่วนร่วมของโรงพยาบาลเอกชน” นายกสมาคมปลูกถ่าย ต่อการเร่งยกระดับระบบการบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะของไทยที่ตั้งเป้าจะเพิ่มอีกเท่าตัว นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการ คสช. กล่าวว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะระบบนี้ของไทยได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องภายใต้การดำเนินงานของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการขยายตัวเร็วขึ้นหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย Service plan ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนี้เป็นอันดับต้นๆ รวมทั้งการมีระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของสามกองทุนภาครัฐ ทำให้การบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะได้ผ่านจุดยากเชิงระบบมาแล้ว และต่อไปนี้ถ้าทุกหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันพัฒนาระบบเพิ่มเติมให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เหมือนที่ประเทศสเปนประสบความสำเร็จมาแล้วและได้รับการยอมรับเป็นผู้นำเรื่องนี้ของโลก นอกจากเรื่องการพัฒนาระบบการบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะแล้ว การประชุมของ คสช. ครั้งนี้ ยังเห็นชอบมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นเรื่องการเตรียมการรองรับสังคมสูงวัย ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 มติ ครอบคลุมเรื่องการออมเพื่อสังคมสูงวัย การเสริมสร้างศักยภาพและการจัดการของชมรมผู้สูงอายุ การปรับสภาพแวดล้อมรองรับสังคมสูงวัย และร่วมสร้างชุมชนรอบรู้สุขภาพและพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวอีกด้วย

login to rate

ระดับความนิยม:

อัพโหลดโดย:  webmaster

วันที่:  4th Dec 19

จำนวนผู้ฟัง:  1047

แสดงความคิดเห็น:  0

เพิ่มเป็นเสียงที่ชื่นชอบ:  0

หมวด:   รายงานข่าวสุขภาวะ

แจ้งเสียงไม่เหมาะสม

เพิ่มเป็นเสียงที่ชื่นชอบ

ส่งอีเมล์ให้เพื่อน


(สามารถนำโค๊ดนี้ไปแสดงที่เว็บไซต์หรือ MySpace,Friendster,Blogger ของคุณได้!)