เฝ้าระวัง “เข้ม” ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศพรมแดนแม่สาย ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง
เมื่อวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2562 เวลา 10.00 น. นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 2/2562 ที่ห้องกาสะลอง ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานและรับทราบแผนเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย โดยมี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศพรมแดนแม่สาย ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช การท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะช้าง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีบทบาทตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 แผนปฏิบัติงานเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และแผนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านสาธารณสุข ช่องทางเข้าออก ระหว่างพรมแดนแม่สายจังหวัดเชียงราย โดยที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์โรคติดต่อที่สำคัญและมาตรการของจังหวัดเชียงราย ที่สำคัญในขณะนี้ ได้แก่สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน 2562 ถึงเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยไข้เลือดออกในจังหวัดเชียงราย มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นจากปี 2561 โดยสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้มีการเฝ้าระวังโรคในพื้นที่ตั้งแต่ระดับอำเภอ อีกทั้งแผนปฏิบัติการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทั้งด้านด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ และสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ท่าเรือเชียงแสน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ก็ได้มีมาตรการ ในการเตรียมแผนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินและป้องกันควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งได้วางมาตรการในการคัดกรองผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามารักษาในประเทศไทย ทั้งที่ได้รับการส่งตัวจากโรงพยาบาล และเดินทางมาด้วยตนเอง จะต้องมีใบส่งตัวจากโรงพยาบาล การคัดกรองผู้โดยสารจากสนามบิน โดยมีการคัดกรองผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ

ทั้งนี้ ประธานในที่ประชุมได้กำชับเจ้าหน้าที่ บุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้เพิ่มมาตรการ ในการป้องกันควบคุมโรคติดต่อให้เข้มข้นจริงจัง สร้างการรับรู้ ให้เกิดความตระหนักในประชาชน เช่นกันนำข้อมูลสถิติในปีก่อน มาใช้ในการประเมินการควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึง ศึกษาพื้นที่ อำเภอที่ไม่เคยเกิดโรคระบาด ให้นำมาเป็นต้นแบบในการศึกษา บูรณาการการป้องกันกับฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง รณรงค์เน้นหนักให้อาสาสมัคร ในพื้นที่ลงพื้นที่อย่างจริงจัง แนะนำความรู้ให้แก่ประชาชน โดยนำไปเป็นแผนใช้กับทุกโรค ที่เกิดขึ้นในทุกช่วงฤดู อีกทั้งให้เพิ่มมาตรการ การควบคุม โรคติดต่อระหว่างประเทศ ให้ความสำคัญการคัดกรองและการติดตามผู้ป่วยติดตามแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคของสัตว์ในเขตแนวชายแดน การให้ความสำคัญกับสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า ซึ่งได้ส่งผลกระทบกับปัญหาสุขภาพในระยะยาว เพื่อเป็นลดปริมาณผู้ป่วย และให้โรคติดต่อได้หมดไปจากจังหวัดเชียงราย