วันนี้ เรามีสาระ น่ารู้ เกี่ยวกับ สำนักงาน สาธารณสุขกาญจนบุรี ได้ มีการเตือนป้องกันเด็กจมน้ำ มีนาคม-พฤษภาคม 2562 “บ้านเริ่ม ชุมชนร่วม ป้องกันเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอมฤดูร้อน”

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี แนะให้ผู้ปกครองดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ห่วงในช่วงปิดเทอมเดือนมีนาคม – พฤษภาคม เด็กเสี่ยงจมน้ำตายสูงที่สุด ควรป้องกันโดยฝึกทักษะการเอาชีวิตรอด แนะวิธีช่วยเหลือคนตกน้ำ ทำ 3 อย่าง "ตะโกน – โยน – ยื่น” พร้อมบูรณาการความร่วมมือจากคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) บ้านและชุมชนร่วมมือกันป้องกันแหล่งน้ำเสี่ยงในพื้นที่เพื่อป้องกันเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม

นพ.พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สภาพอากาศได้เปลี่ยนเป็นฤดูร้อน และเป็นช่วงปิดเทอมในเดือนมีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงเด็กจมน้ำสูงที่สุด การจมน้ำเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 มากกว่าโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ ในรอบ 10 ปี พบว่าเด็กจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยสูงถึงปีละ 904 คน หรือวันละ 2.5 คน ช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูงสุดทุกปี โดยเดือนมีนาคม – พฤษภาคมปีที่ผ่านมามีเด็กจมน้ำเสียชีวิตถึง 231 คน คิดเป็นร้อยละ 34 ของเด็กที่จมน้ำตลอดทั้งปี เกือบครึ่งหนึ่งของเหตุการณ์พบว่าเป็นการชวนกันไปเล่นน้ำเป็นกลุ่มตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ส่วนใหญ่ขาดทักษะการเอาชีวิตรอดในน้ำและไม่รู้วิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้อง แหล่งน้ำที่เด็กจมน้ำมากที่สุดคือแหล่งน้ำตามธรรมชาติ สำหรับจังหวัดกาญจนบุรีมีสภาพภูมิประเทศมีป่าเขาและแหล่งน้ำจำนวนมาก ข้อมูลสถานการณ์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิต ปี 2561 มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 125,027 คน เสียชีวิตจากการจมน้ำ 8 ราย คิดเป็นอัตรา 6.40 ต่อประชากรเด็กแสนคน สถานที่เกิดเหตุคือลำห้วยธรรมชาติ 4 ราย แม่น้ำ อ่างเก็บน้ำ และถังน้ำภายในบ้าน อย่างละ 1 ราย เนื่องจากเด็กมักจะลงเล่นน้ำเพื่อคลายความร้อนในสภาวะอากาศร้อนอบอ้าว และมักลงเป็นกลุ่ม เมื่อมีรายหนึ่งจมน้ำ จะลงไปช่วยกัน แต่ช่วยไม่เป็นจึงทำให้จมน้ำตายด้วยกัน สำหรับแหล่งน้ำที่เด็กตกน้ำ จมน้ำมากที่สุด คือ แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง หนองน้ำ บึง รองลงมาคือ สระว่ายน้ำ และอ่างเก็บน้ำ ส่วนในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ จุดเกิดเหตุมักอยู่ในบ้าน คือจะจมน้ำในถังน้ำ อ่างน้ำ กะละมังที่มีน้ำอยู่ เนื่องจากเด็กยังทรงตัวได้ไม่ดี ทำให้ล้มในท่าศีรษะทิ่มลง และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทำให้เสียชีวิต ปัญหาเด็กว่ายน้ำไม่เป็นยังเป็นปัญหาใหญ่ของเด็กไทย จึงไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเล่นน้ำตามลำพัง แม้ว่าจะเป็นแหล่งน้ำใกล้บ้านหรือแหล่งน้ำที่คุ้นเคย ควรให้ความรู้ในการปฐมพยาบาลผู้จมน้ำที่ถูกต้อง รวมทั้งขอความร่วมมือชุมชนทุกแห่งให้สำรวจแหล่งน้ำที่เสี่ยงต่อการจมน้ำในพื้นที่เพื่อจัดการดูแลให้เกิดความปลอดภัยกับเด็ก หากประชาชนพบเห็นอุบัติเหตุคนจมน้ำ สามารถโทรแจ้งขอความช่วยเหลือทางหมายเลข 1669 ทันที

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีได้มีการประชาสัมพันธ์ “บ้านเริ่ม ชุมชนร่วม ป้องกันเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอมฤดูร้อน” ปลูกฝังเด็กไทยรักความปลอดภัยทางน้ำ รวมทั้งมีการดำเนินมาตรการป้องกัน ดังต่อไปนี้ 1. ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการจมน้ำของเด็กแก่ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก และตัวเด็กเอง รวมทั้งแจ้งเตือนภัยให้คนในชุมชนทราบถึงโอกาสเสี่ยงและการป้องกันการจมน้ำของเด็ก โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่เป็นจุดเสี่ยงใกล้บ้านและในชุมชน ซึ่งช่วงปิดภาคเรียนพบว่ามีการจมน้ำเสียชีวิตสูงที่สุด ในเด็กเล็กมีการรณรงค์ "อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม” เพื่อป้องกันเด็กเล็กจมน้ำ 2. แนะนำให้มีการติดตั้งเครื่องกีดขวางหรือรั้วในจุดเสี่ยงที่สามารถทำได้ เพื่อป้องกันเด็กเข้าถึงแหล่งน้ำ หากพบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำในพื้นที่รับผิดชอบ ขอให้ส่งรายงานมาที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีทันที เพื่อเตือนภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ และนำมาใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันเด็กจมน้ำ 3. สอนว่ายน้ำขั้นพื้นฐานแก่เด็กวัยเรียน ความปลอดภัยทางน้ำและทักษะการช่วยชีวิต รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ เรื่อง การปฐมพยาบาลคนจมน้ำเบื้องต้นและการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน 4. ให้ความรู้แก่ประชาชนถึงความแตกต่างของการใช้เสื้อชูชีพและเสื้อพยุงตัว โดยเน้นว่า ปัจจุบันที่เห็นอยู่ทั่วไปคือเสื้อพยุงตัว ไม่ใช่เสื้อชูชีพ ซึ่งหากใส่เสื้อพยุงตัวต้องตีขาช่วยเพื่อให้หน้าไม่คว่ำและสามารถเคลื่อนที่ไปในน้ำ และหากสลบหรือไม่รู้สึกตัวก็อาจจมน้ำเสียชีวิตได้ เพราะเสื้อพยุงตัวจะไม่ช่วยพลิกให้หน้าของผู้สวมใส่หงายขึ้นเหนือน้ำเหมือนกับเสื้อชูชีพ 5. ดำเนินมาตรการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และสร้างเครือข่ายป้องกันการจมน้ำในระดับอำเภอและชุมชน โดยใช้กลไกความร่วมมือจากคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) บ้านและชุมชนร่วมมือกันป้องกันแหล่งน้ำเสี่ยงในพื้นที่เพื่อป้องกันเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม

ถือว่า เป็น ข่าวสาร ที่มีประโยชน์มากเลยทีเดียว นะค่ะ สำหรับท่านใด ที่มีบุตรหลาน ต้องช่วงกันดูแลเป็นพิเศษ ในช่วงปิดเทอมนี้ ต้องขอขอบพระคุณ ข้อมูลข่าวสารจากสำนากงาน สาธารณสุขกาญจนบุรี