ส่งเสริมเพื่อให้ชุมชนมีแผนและกิจกรรมเฝ้าระวัง – ให้ความรู้สาเหตุผลกระทบจากไฟป่าและหมอกควัน – เฝ้าระวังรายงานข้อมูลสถานการณ์และแจ้งเหตุ - สื่อสารและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารและกิจกรรม - สนับสนุนภารกิจและการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และโซ่ข้อกลางประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 17 มกราคม 2562 ณ.ศูนย์เรียนรู้เชิงวิชาชีพครู ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ได้จัดให้มีเวทีการขับเคลื่อนกลไกเครือข่าย ทสม. (อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน) ขึ้น ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 17-18 มกราคม 2562 โดยมี นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของเป็นประธานกล่าวเปิดงานและบรรยายพิเศษ นางสาวอุมา ศรีสุข ผู้อำนวยการกองอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ในการจัดเวทีการขับเคลื่อนกลไกเครือข่าย ทสม.จังหวัดเชียงราย สู่การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 80 คน รวมทั้งนักข่าวสุขภาวะ ภาคเหนือของจังหวัดเชียงรายอีก 2 คน ที่ได้รับเกียรติเชิญเข้าร่วมในครั้งนี้ พร้อมทั้งเครือข่าย ทสม.ในพื้นที่ 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย พร้อมหน่วยงานของรัฐ ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ และองค์กรพัฒนาชุมชน โดยหัวข้อหลักสำคัญของการขับเคลื่อนกลไกเครือข่าย ทสม. สู่การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน คือกิจกรรม ทสม. ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม การรณรงค์ลดไฟป่าหมอกควัน การลดขยะที่ต้นทาง และการปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน - กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การอนุรักษ์และขยายพันธุ์ไผ่ซางหม่น เพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเกิดความเสื่อมโทรมและถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดการสูญเสียฐานทรัพยากรธรรมชาติ และปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์ไฟป่าและปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงหน้าแล้ง (เดือนธันวาคมถึงพฤษภาคม) และจังหวัดเชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกจังหวัดหนึ่งของภาคเหนือปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงไม่ได้มาจากปัญหาไฟป่า หมอกควันเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกพื้นที่สาธารณะป่าต้นลำธาร การขยายตัวของเมืองและประชากร การจัดการขยะอย่างผิดวิธี การใช้ถุงพลาสติก การปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ระบบนิเวศและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ อย่างประเมินค่าไม่ได้

เราทุกคนตระหนักดีว่าการแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาครัฐไม่สามารถดำเนินการได้เพียงลำพัง ต้องเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมและเป็นกลไกสำคัญในการเฝ้าระวัง ในรูปแบบเครือข่ายภาคประชาชน และประชาชนจิตอาสา ซึ่งมีความสำคัญกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน จิตอาสา เน้นการประสานความร่วมมือ ร่วมกันทำงานของ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมฟื้นฟูฐานทรัพยากร ประสานพลังประชารัฐสู่การปฏิบัติในพื้นที่ โดยน้อมนำพระราโชบายและสานต่อโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ส่งเสริมและสนับสนุนจิตอาสาตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เข้าร่วมดำเนินการกับภาครัฐด้วย ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวให้คำนึงถึงประโยชน์ในการสร้างการเรียนรู้ตอบสนองความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่บนพื้นฐาน ของการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน เพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

การจัดกิจกรรมในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงและความร่วมไม้ร่วมมือของพี่น้องเครือข่าย ทสม. ทั้ง 18 อำเภอและภาคีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่ได้ดำเนินกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานการมีส่วนร่วม สานต่องานจิตอาสา ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และนโยบายรัฐบาล “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” ท่านผู้ฟังที่เคารพ ซึ่งไม่ง่ายนักที่จะเกิดเวทีฯ ที่สร้างสรรค์ พรั่งพร้อมไปด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ท้องถิ่น ท้องที่ และองค์กรพัฒนาเอกชน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้เกิดความกินดี อยู่ดี มีความสุขของชุมชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืนตลอดไป.