สถานการณ์ปัญหาที่มาจากอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะบนท้องถนนได้สะท้อนความรุนแรงที่เกิดกับชีวิตของประชาชน จากสถิติจำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วงปี 56-57 ที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนอุบัติเหตุประมาณ 4,230 ครั้ง หรือ 11.5 ครั้งต่อวัน ซึ่งได้ทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตมากถึง 1.5 ล้านคนในทุก ๆ 2 ชั่วโมงของทุก ๆ วัน หมายความว่าจะมีคนไทย 2 คน ต้องเสียชีวิตเพราะภัยบนท้องถนน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุ ต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติโดยรวม ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจหลายแสนล้านบาท ซึ่งนับเป็นความสูญเสียแห่งชาติอย่างมากมายมหาศาลจึงถือได้ว่าการบาดเจ็บและเสียชีวิตทางถนน เป็นสาเหตุที่ติดอยู่ใน 3 อันดับแรก ของการเสียชีวิตของคนไทย และไม่มีท่าทีว่าจะลดน้อยลง

ดังนั้น เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ณ.ห้องประชุมพิงคพาเสช ชั้น 3 โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สภาผู้บริโภคในพื้นที่ภาคเหนือ มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา เครือข่ายสภาผู้บริโภคภาคเหนือ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมกันจัดเวทีสภาผู้บริโภคขึ้นในประเด็น ทุกข์ของผู้บริโภค.. “เมื่อไหร่จะมีรถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัย” โดยมีผู้แทนจากสำนักงานขนส่งจังหวัด แต่ละจังหวัดเข้าร่วม รวมถึงจังหวัดเชียงรายด้วยเพื่อนำเสนอข้อมูล สถานการณ์ปัญหา และข้อเสนอแนะที่องค์กรผู้บริโภคได้เสนอกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือกันพัฒนารถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มเป็นทางการเมื่อเวลา 10.00 น. พิธิเปิดโดยนายนิคม บุญเสริม ประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา และมีการเสวนาในหัวข้อปัญหาต่าง ๆ “อะไรจะเปลี่ยนแปลง หลังจากอุบัติเหตุรถโดยสาร” โดยผู้เสียหายจากภาคเหนือนำเสนออย่างเผ็ดร้อน เช่น กรณีอุบัติเหตุรถเช่าเหมาลำไม่ประจำทาง – รถโดยสารสาธารณะ ดำเนินรายการโดยนายสมศักดิ์ ชมภูบุตร ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค จ.ลำปาง ประเด็นมุมมองความคาดหวังต่อบทบาทขององค์กรผู้บริโภคกับการขับเคลื่อนงานรถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัย โดย รศ.ลำดวน ศรีศักดา ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวนอุบัติเหตุทางถนนภาควิชา วิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นางสุภาพร ถิ่นวัฒนากูล มูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา และ น.ส.พวงทอง ว่องไว ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคมูลนิธิพะเยาเพื่อการพัฒนา มีการนำเสนอข้อมูลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง การใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ระหว่างภาคเหนือพื้นที่ 13 จังหวัดและมาตรการพัฒนารถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค “ด้วยพลังเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือกับการพิทักษ์สิทธิรถโดยสารสาธารณะ” มีข้อเสนอต่างๆมากมายนักขององค์กรผู้บริโภคต่อการพัฒนารถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัย ฯลฯ และข้อเสนอเชิงนโยบายให้ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาข้อเสนอและแนวทางแก้ไขปัญหาในการพัฒนาคุณภาพรถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค - เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเรื่องรถโดยสารสาธารณะและการพัฒนาคุณภาพรถโดยสารสาธารณะ โดยมีเครือข่ายประมาณ 100 คน ประกอบด้วย เครือข่ายผู้บริโภคภาคเหนือจำนวน 9 จังหวัด คือ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.แพร่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แม่ฮ่องสอน จ.พิจิตร และ จ.กำแพงเพชร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรถโดยสารสาธารณะทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป จากการดำเนินงานทำให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดกลไกการทำงานคือ เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคแต่ละจังหวัดมีการทำงานที่มีข้อมูลที่ชัดเจน โดยเฉพาะการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ให้บริการและคุณภาพของรถโดยสารลงลึกไปในระดับพื้นที่ จึงใช้เป็นต้นทุนในการตั้งต้นการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสวงหาความร่วมมือทั้งการหนุนเสริมในด้านวิชาการ วิธีการทำงาน และการหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน เกิดความเป็นรูปธรรมและเป็นต้นแบบในการทำงานระดับพื้นที่โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับสถานศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับรถรับส่งนักเรียน รวมทั้งการใช้สัญญาที่เป็นธรรมในการเช่ารถทุกครั้งอีกทั้งยังเกิดการพัฒนาภาคีความร่วมมือในการทำงานด้านรถโดยสารให้เป็นกลไกระดับจังหวัดที่มีความชัดเจน และได้แสดงถึงบทบาทหน้าที่ในการสนับสนุนการมีส่วนร่วมขององค์กรผู้บริโภค ตลอดจนการทำงานเพื่อผลักดันนโยบายที่สำคัญในการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคเพื่อให้เกิดรถโดยสารสาธารณะที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคต่อไป.