คณะทำงานวิชาการพัฒนาแนวปฏิบัติ ม.7 จ่อหารือกระทรวงดิจิทัลฯ บรรจุ ‘แนวปฏิบัติ’ ในร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

แนวปฏิบัติตามมาตรา ๗ แห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๐ สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุข ซึ่งได้จัดทำเป็น “คู่มือ” และมีการพัฒนาเนื้อหามาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีความรุดหน้าและสมบูรณ์ขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดความครอบคลุม ครบถ้วนรอบด้าน ได้ประโยชน์และเป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบวิชาชีพ คณะทำงานวิชาการปรับปรุง (ร่าง) แนวปฏิบัติตามมาตรา ๗ จึงนัดหมายล้อมวงพูดคุยระดมความคิดเห็นเป็นนัดแรกของปี ๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ที่ผ่านมา แน่นอนว่า หนึ่งในหัวใจสำคัญของแนวปฏิบัติฉบับนี้ ยังคงอยู่ที่ “การใช้งานสื่อสังคมออนไลน์” โดยเฉพาะประเด็นข้อมูลส่วนบุคคล

ไพศาล ลิ้มสถิตย์ หนึ่งในคณะทำงาน กล่าวถึงความคืบหน้าที่เกี่ยวข้องต่อที่ประชุมว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดิจิทัลฯ) ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... ขึ้น ซึ่งขณะนี้ผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว คาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเร็วๆ นี้ “หากร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ผ่านเป็นกฎหมายเต็มตัว ก็จะต้องมีกฎหมายลูกตามมา ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่จะเสนอแนวปฏิบัติที่กำลังทำงานอยู่ให้กระทรวงดิจิทัลฯ พิจารณาด้วย เพื่อให้เนื้อหาข้อมูลส่วนบุคคลด้านสุขภาพถูกบรรจุเข้ารวมอยู่ในกฎหมาย” ไพศาล เสนอความคิดเห็น ซึ่งได้รับความสนใจและเสียงสนับสนุนจากที่ประชุมที่ขานรับและแลกเปลี่ยนมุมมองต่อยอดกันอย่างหลากหลาย
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ในฐานะประธานคณะทำงาน กล่าวว่า คณะทำงานต้องเร่งศึกษาร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่ามีผลกระทบต่อแนวปฏิบัติตามมาตรา ๗ ที่เรากำลังจัดทำกันอยู่หรือไม่

“หากเราต้องการนำเสนอความคิดเห็นเพื่อควบรวมเข้าไปในร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ก็ควรนัดหมายเข้าไปพูดคุยกับตัวแทนกระทรวงดีอีด้วย” นพ.วิชัย ระบุ ที่ประชุมเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าควรจะพูดคุยกับกระทรวงดิจิทัลฯ หากแต่ก็ยังมีข้อกังวลว่าถ้าไม่ได้รับความร่วมมือแล้ว ในอนาคตประเทศไทยอาจจะมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่หลากหลาย ทว่าที่สุดแล้ว วงถกยังเชื่อว่าการพูดคุยระหว่างหน่วยงานน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าข้อกังวล

ก่อนการประชุมจะสิ้นสุด ที่ประชุมได้มอบหมายการบ้านให้ตัวแทนคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์เนื้อหา (ร่าง) พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเด็นที่เชื่อมโยงกับสิทธิข้อมูลด้านสุขภาพส่วนบุคคล รวมทั้งรวบรวมข้อมูลสถานการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ว่ามีแนวปฏิบัติที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และมีการพัฒนาไปทิศทางใดบ้างโดยเฉพาะกับการเปิดเผยข้อมูล เพื่อเตรียมมาพูดคุยกันอีกครั้งในวันที่ ๑๕ พฤษภาคมนี้