ทีมพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง “LadyKit” ย้ำขณะนี้ยังเป็น Prove of concept คาดใช้เวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์อีก 2 ปีก่อนวางจำหน่าย ตั้งเป้าขายในร้านขายยาทั่วไปชุดละ 500 บาท
นายชาวิน กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ เริ่มจากการ workshop ในชั้นเรียนคอร์สการสร้างสตาร์ทอัพ 24 ขั้นตอนกับอาจารย์จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทีมงานซึ่งมาจากสถาบันต่างๆ ได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเล็งเห็นถึงปัญหาของระบบบริการสุขภาพในประเทศไทย โดยเฉพาะกระบวนการเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยเหตุนี้ทางทีมงานจึงมีแนวคิดในการพัฒนาชุดตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มสตรีไทย

“เราอยากนำไปต่อยอดให้เกิดขึ้นจริงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทีมเราเลยนำ prove of concept ส่งเข้าประกวดในโครงการของ Thailand Dedicated MedTech Startup Competition 2017 แล้วก็นำไปต่อยอดแข่งขัน Startup Thailand League 2018 แต่ที่นำเสนอยังเป็น Prove of concept คาดว่าจะลงมือวิจัยและทำเป็นผลิตภัณฑ์จริงๆ ได้ประมาณ 2 ปี”นายชาวิน กล่าว
ทั้งนี้ ผู้วิจัยหลักที่รับหน้าที่พัฒนาชุดตรวจคือ รศ.ดร.เกียรติทวี ชูวงศ์โกมล จากภาควิชาชีวเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมี น.ส.สุภาพร กลางประพันธ์ เป็นผู้ช่วยวิจัย ซึ่ง รศ.ดร.เกียรติทวี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของทีมในการแข่งขันทุกครั้งอีกทั้งรับตำแหน่ง CEO ในบริษัท ไบโอนาโนเมอร์ จำกัด อีกด้วย

นายชาวิน กล่าวอีกว่า ชุดตรวจมะเร็งปากมดลูกที่กำลังพัฒนาอยู่นี้ จะเน้นไปที่การตรวจหาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก เช่น HPV16 และ HPV18 ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกกว่า 70% ทั่วโลก รวมทั้งไวรัสสายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำที่แม้ไม่ก่อให้เกิดรอยโรคมะเร็งแต่ก็อาจทำให้เกิดหูดขึ้นได้ โดยชุดตรวจนี้จะตรวจจากปัสสาวะและทราบผลเบื้องต้นใน 10 นาที อย่างไรก็ดี หากผลตรวจเป็น + จะแนะนำให้เข้ารับการตรวจภายในเพิ่มเติมเพื่อประเมินอย่างละเอียดอีกครั้ง

ในส่วนของเป้าหมายทางการตลาด นายชาวินกล่าวว่า เบื้องต้นตั้งราคาไว้ชุดละประมาณ 500 บาท โดยวางแผนจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไปทั้งในห้างสรรพสินค้าและร้านขายยาในท้องถิ่น อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่ได้ลึกลงในรายละเอียดด้านการตลาด เนื่องจากทีมงานต้องการโฟกัสที่ตัวผลิตภัณฑ์ให้เกิดขึ้นจริงก่อน