รณรงค์ค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติ 70 ปี แห่งการครองราชย์
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิราชประชาสมาสัยฯ และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น รณรงค์ค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ 70 ปี แห่งการครองราชย์ ขอความร่วมมือประชาชน หากผิวหนังเป็นวงด่างขาวชา หยิกไม่เจ็บ หรือเป็น ผื่น ตุ่มนูนแดงหนา ไม่คัน ให้รีบเข้ารับการรักษาที่หน่วยงานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อป้องกันความพิการ
เมื่อวันที่(29 กุมภาพันธ์ 2559)ที่จังหวัดขอนแก่น ศ.นพ.ธีระ รามสูต ประธานมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.อาจินต์ ชลพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชประชาสมาสัย แถลงข่าว “รณรงค์ประชาสัมพันธ์การค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ 70 ปี แห่งการครองราชย์” และการประชาสัมพันธ์การถ่ายโอนนิคมโนนสมบูรณ์(นิคมโรคเรื้อน) จังหวัดขอนแก่นสู่ชุมชนทั่วไป พร้อมมอบเอกสารสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ แก่สมาชิกและบุตรหลาน
นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้กำหนดเป้าหมายลด อัตราความพิการที่มองเห็นในผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ให้น้อยกว่า 1คนต่อประชากร 1 ล้านคนภายในปี 2563 ในส่วนของประเทศไทยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดทำ“ โครงการรณรงค์ค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติ 70 ปีแห่งการครองราชย์”มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนร่วมค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ให้เข้ารับการรักษาโดยเร็ว ลดโอกาสเกิดความพิการ และ
เสริมสร้างกำลังใจแก่ผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องจนหายขาดครบตามกำหนด รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนสามารถดำรงชีวิตอยู่ในชุมชนได้ตามปกติ ตั้งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ไม่เกิน 100 คน และลดอัตราความพิการที่มองเห็นได้ในผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ไม่เกิน 0.3 คนต่อประชากร 1 ล้านคน หรือประมาณ 20 คน
โดยมีมาตรการเข้มข้น ดังนี้ 1.เร่งรัดการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่เป้าหมาย 66 อำเภอ ใน 35 จังหวัด 2.เร่งรัดการดำเนินการเฝ้าระวังโรคเรื้อนในกลุ่มประชาชนต่างชาติ โดยการตรวจสุขภาพก่อนออกใบอนุญาตทำงาน 3.การพัฒนาสถานบริการเชี่ยวชาญโรคเรื้อน ให้บริการได้ครบวงจรกระจายอยู่ในภาคต่างๆ จำนวน 20 แห่งครอบคลุมเขตบริการสุขภาพทุกแห่ง ขอความร่วมมือประชาชน หากมีอาการผิวหนังเป็นวงด่างขาวชา หยิกไม่เจ็บ หรือเป็น ผื่น ตุ่มนูนแดงหนา ไม่คัน ขอให้ไปรับการตรวจเบื้องต้นที่หน่วยงานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หากสงสัยว่าใช่จะได้รับการส่งต่อไปรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาตามมาตรฐาน ตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อป้องกันความพิการ