อำนาจเจริญ เตรียมชาวนายุคใหม่ไม่เผาตอซังในนาข้าว

นายทรงพันธ์ จันทร์สว่าง เกษตรจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า พื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญเกษตรกรทำนาปลูกข้าวหอมมะลิมากกว่าร้อยละ 90 แต่จะอาศัยน้ำฝนน้ำจากธรรมชาติเป็นหลักโดยไม่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้การทำนาสะดวกสบายขึ้นเหมือนจังหวัดอื่นที่มีแม่น้ำสำคัญๆไหลผ่าน ผลผลิตจึงได้น้อยบางปีไม่คุ้มทุน อีกทั้งต้องแบกภาระเรื่องปุ๋ยที่ต้องจ่ายแพงขึ้นทุกปี คุณภาพดินเริ่มเสื่อม ชาวนาขาดความรู้ หลายคนยังมีความเชื่อเดิมๆที่ผิดอยู่ เช่นการเผาตอซังในนาข้าวเป็นการสร้างดินให้มีคุณภาพดี ซึ่ง ไม่ใช่ แต่เป็นการทำลายหน้าดิน ทำลายความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติ ทำให้ต้นข้าวอ่อนแอไม่เจริญเติบโต ทุกๆปีชาวนาจะใส่ปุ๋ยเคมีในปริมาณที่มากเพื่อให้ได้ผลผลิตตามคำโฆษณา ซึ่ง ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด

นายทรงพันธ์ จันทร์สว่าง เกษตรจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีเป้าหมายให้ประชาชนลดสารเคมีลงทุกชนิด ไม่ต้องการให้เกษตรกรทำนาต้องมีค่าต้นทุนสูง ดังนั้น จึงมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี และผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่ตลาดมีความต้องการสูง โดยจัดอบรมเกษตรกรจากทั้งหมด 7 อำเภอรวมกว่า 2,300 ครอบครัว เนื้อที่ทำนากว่า 100,000 ไร่ ให้มีความรู้ วิธีการทำนาสมัยใหม่ เริ่มจากทำการปรับปรุงดินให้มีคุณภาพก่อน จะ ห้ามเผาตอซังหรือวัสดุใดๆในแปลงนาข้าวทุกชนิดจะสนับสนุนพันธุ์พืชบำรุงดิน เช่น การปลูกถั่วพร้าถั่วเขียว โดยหลังเก็บเกี่ยวพืชตระกูลถั่วหมดแล้ว ซากต้นจะเหลืองแห้งตายเสื่อมสลายทำเป็นปุ๋ยบำรุงดินได้ นอกนั้น จะอบรมทำปุ๋ยใช้เองซึ่งเกิดจากวัชรพืชในแปลงข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวไปซึ่งมีมากมาย โดยถ้าหากไม่เผาตอซังในนาข้าวชาวบ้านสามารถรักษาสภาพดินในแปลงนาของตนเองได้

เกษตรจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมา โครงการอบรมเกษตรกรทำนาให้ได้ข้าวคุณภาพดี จะไปอบรมกันภายหลังจากชาวบ้านเผาตอซังไปล่วงหน้าแล้วจึงไม่ได้ผล ปีนี้จึงเร่งอบรมก่อนป้องกันไม่ให้ลืม ไม่ให้ใครหลงผิดทำลายผืนดินของตัวเอง ดังนั้น การอบรมหลักสูตรนี้จึงต้องเร่ง ต้องรีบดำเนินการ จะไม่ปล่อยให้ชาวบ้านเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำนาที่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีมากๆถึงจะได้ข้าวมากอีกต่อไป เพราะนั้นคือ วิธีการที่ถูกหลอกมานาน// สุชาติ สูงเรือง รายงาน