สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ พบกันอีกครั้งกับผมรพินทร์ ยืนยาว ผู้สื่อข่าวสุขภาวะภาคอีสานอุบลราชธานี วันนี้จะพาท่านผู้ฟังไปพบบรรยากาศของการสรุปบทเรียนการพัฒนาเครือข่ายสมัชชาสุขภาพอีสาน เป็นนักสานพลังขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมภาคอีสานปี 58
เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ณ ห้องประชุมวิทยาลัยสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น คณะทำงานพัฒนานักสานพลังขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมภาคอีสานปี 58 และตัวแทนนักสานพลัง ร่วมกันสรุปบทเรียนการอบรมพัฒนานักสานพลังฯ ที่มีการอบรมมาตลอดทั้งปี 58 ได้มีข้อสรุปบทเรียนที่เกิดขึ้นเพื่อการพัฒนาต่อยอดในปีถัดไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
จากที่มีการตั้งวัตถุประสงค์การเรียนรู้ไว้ 2 ข้อด้วยกัน ได้แก่ การส่งเสริมพัฒนาศักยภาพแกนนำเครือข่ายคนทำงานด้านพัฒนานโยบายสาธารณะและพัฒนาสังคมสุขภาวะ และการส่งเสริมการสร้างและจัดการความรู้เกี่ยวกับการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมและพัฒนาสังคมสุขภาวะ เมื่อมีการตั้งวัตถุประสงค์การเรียนรู้ไว้อย่างการนั้น การดำเนินงานอบรมในแต่ละครั้งก็มีการกำหนดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และบริบทของพื้นที่ โดยมีการอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 4 ครั้ง ได้แก่ การเรียนรู้ตัวตนศักยภาพที่มีในตัวตน การจุดประกายความคิด การรู้จักตนเองให้มากยิ่งขึ้น การเรียนเครื่องมือในการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมใน 3 เครื่องมือได้แก่ กระบวนการสมัชชาสุขภาพ กระบวนการธรรมนูญสุขภาพ กระบวนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพของชุมชน ต่อด้วยการเรียนรู้การถอดบทเรียน การวิเคราะห์ทุนในพื้นที่ การค้นหาเครือข่ายในการทำงาน เป็นต้น
ผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ จำนวน 56 คน แบ่งเป็นภาครัฐ 24 คน ภาคประชาสังคม 24 คน และภาควิชาการ 8 คน ผู้ที่ผ่านหลักเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้ จำนวน 45 คน
ทำให้เกิดข้อสรุปในการพัฒนาต่อยอด เรื่องของคน ควรที่จะมีการขยายเครือข่ายมากขึ้น การประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงทุกรูปแบบ การวิเคราะห์ผุ้เข้าร่วมจาก สช.และเครือข่ายในพื้นที่ด้วย เรื่องของเนื้อหาให้ผู้เรียนรู้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบมากขึ้น เรื่องวิทยากรควรให้ นนส.ปีที่ผ่านมาเข้าร่วมในการเป็นวิทยากรและแลกเปลี่ยนเรียนรู้มากขึ้น เรื่องการสื่อสารประสานงาน ควรมีหน่วยงานกลางในติดต่อสื่อสารชัดเจน เรื่องการบริหารจัดการควรสร้างความเข้าใจให้ตรงกันและมีการสรุปประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
และในปี 2559 จะมีการพัฒนานักสานพลังต่อเนื่องจึงให้เครือข่ายสมัชชาสุขภาพทั้ง 20 จังหวัดส่งรายชื่อตัวแทนของสมัชชาสุขภาพจังหวัดเข้าร่วมในการพัฒนา จังหวัดละ 3 - 5 คน ต่อจังหวัด เน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดบทเรียนการทำงาน และวิเคราะห์เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสมัชชาสุขภาพเชิงประเด็นต่อไป

นายรพินทร์ ยืนยาว/ข่าว