นัก กฎหมาย มธ.ระดมสมอง หาแนวทางแก้ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหาย เน้นประเด็นการแก้เนื้อหาชื่อร่างไม่ชัด-ความก้ำกึ่งในกระบวนการไกล่เกลี่ย ด้านสภาทนายความ ชี้ แพทย์เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่ประชาชนสามารถฟ้องร้องได้ หากทำหน้าที่ผิดพลาดร้ายแรง
วันนี้ (18 ส.ค.) นักก๐ฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดเวทีเสวนา “สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ....” ที่จัดขึ้นเพื่อเสวนาวิชาการ ร่วมระหว่าง ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มธ.และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เพื่อหารือเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหาย รายมาตรา ว่ามีข้อดีและควรแก้ไขประเด็นใด
โดย รศ.สุดา วิศรุตพิชญ์ คณะนิติศาสตร์ มธ.และนักวิชาการเกี่ยวกับกฏหมายแพ่ง กล่าวว่า โดยส่วนตัวนั้น เห็นควรว่า ถ้าผู้ร่าง พ .ร.บ.ฉบับนี้มีเจตนารมณ์เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีในระบบบริการสาธารณสุข ก็ควรตั้งชื่อให้มีความสอดคล้องกันในเรื่อง โดยแทนที่จะใช้คำว่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ก็ใช้เป็น พ.ร.บ.สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดี จึงจะช่วยให้การใช้อำนาจของคณะกรรมการสร้างเสริมฯ เป็นไปตาม ที่ระบุไว้ ในกรอบเนื้อหาและสอดคล้องกับเจตนารมณ์
รศ.สุดา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมองเห็นปัญหาเรื่องอายุความที่จำเป็นต้องเขียนให้ชัดเจนกว่านี้ เนื่องจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังก้ำกึ่งในการเลือกปฏิบัติของผู้ได้รับความเสียหาย เช่น กรณีที่ระบุว่า หากผู้เสียหายได้รับเงินชดเชยแล้วก็อาจไปฟ้องผู้ให้บริการได้อีก ที่สำคัญ คือ ต้องไม่มองข้ามเรื่องของเพดานเงินชดเชยของกองทุนที่จำเป็นต้องกำหนดให้เทียบ เท่ากับศาลจึงจะสามารคถเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดการฟ้องร้องได้
นักกฎหมายแพ่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเด็นที่ต้องมีความชัดเจนมากขึ้น คือ ขอบข่ายการคุ้มครองผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้นั้น ควรมีการระบุที่ชัดเจนว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวครอบคลุมเฉพาะคนไทยหรือไม่ เพราะหากพิจารณา ณ ขณะนี้เนื้อหาของ พ.ร.บ.ฉบับนี้คุ้มครองทุกสัญชาติที่ได้รับความเสียหายจากการบริการสาธารณสุข ในสถานพยาบาลของไทย
อนึ่ง ตัวแทนจากสำนักงานกฤษฎีกา อธิบายว่า เจตนาของ พ.ร.บ.ฉบับนี้นั้นคุ้มครองเฉพาะผู้ถือสัญชาติไทยเท่านั้น เนื่องจากกำหนดร่างตาม รัฐธรมนูยของไทย
ที่มา Manager Online http://www2.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000114825&;CommentReferID=16801445&CommentReferNo=2&TabID=3&