โลกเรานั้นประกอบไปด้วยคนหลากหลายช่วงอายุ จากทฤษฎี เจนเนอเรชั่น เราสามารถจัดคนออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆ ตามช่วงปีเกิดได้แก่ SilentGeneration BabyBoomer GenerationX GenerationY ปัจจุบันคนเจน Y มีสัดส่วนสูงที่สุดคือร้อยละ 39 ของประชากรโลกทั้งหมด โดยความแตกต่างที่สภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ที่คนแต่ละรุ่นได้รับประสพการในวัยเยาว์ผ่านการเปลี่ยนแปลงของ ยุคสมัย ทำให้คนแต่ละรุ่น มีวิธีคิดโลกทัศน์ ค่านิยม มุมมองต่อสังคม และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน เช่นในด้านการทำงาน SilentGeneration BabyBoomer มักจะสานต่อกิจการครอบครัว หรือกิจการส่วนตัว คน GenerationX และ Y กับนิยมเป็นลูกจ้างภาคเอกชน อีกทั้งคน GenerationY มีแนวโน้มเปลี่ยนงานสูงขึ้น ไม่ผูกติดกับองค์กรณ์ใด องค์กรณ์หนึ่ง ดั่งเช่นคนในยุคก่อน ในด้านที่อยู่อาศัย SilentGeneration BabyBoomer GenerationX มักอาศัยในบ้านเดี่ยวหรือ ทาวน์เฮาส์ ส่วนคน GenerationY เลือกที่จะอยู่ในคอนโดหรือ อาพาร์ทเม้น เนื่องจากคนเจน Y รักอิสระและมีแนวโน้มที่โครงโสด และไม่ต้องการที่จะมีลูกมากขึ้น คนยุค SilentGeneration BabyBoomer มีแหล่งรายได้มาจากบุตรหลาน แต่คน GenerationX และ GenerationY ไม่มีบุตรจึงขาดแหล่งรายได้ วัยชราจากบุตรหลานเช่นในยุคก่อน ต้องพึ่งพาตนเองจากการทำงานและเก็บออม หรือพึ่งพาสวัสดิการณ์จากภาครัฐมากขึ้น ในด้านการบริโภคคน GenerationY นิยมทานข้าวนอกบ้านและซื้ออาหารสำเร็จรูป ส่งผลให้คน GenerationY มีค่าอาหารสูงที่สุดถึงร้อยละ 77 เมื่อเทียบกับยุคก่อน ซึ่งนิยมทำอาหารทานกันเองในครัวเรือน ในด้านเทคโนโลยีคน GenerationY มีแนวโน้มที่จะติดสมาร์ทโฟน และสื่อออนไลน์มากกว่าคนในยุคก่อน GenerationY ของไทยใช้เวลาถึง 1 ใน 3 ของวันกับชีวิตออนไลน์บนโลกอินเตอร์เน็ต ส่งผลให้คน GenerationY ไม่ห่วงใยสุขภาพและการออกกำลังกาย ในแต่ละวันคน GenerationY มีกิจกรรมทางกายเพียง 1.14 ชั่วโมง ซึ่งน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับ Generation อื่นๆ หากมองถึงอนาคตประเทศไทยในอีก 20 ปีต่อจากนี้ เกือบครึ่งของแรงงาน จะเป็นประชากรรุ่น GenerationY และจะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิหลอย่างมากในด้านธุรกิจ ภาคธุรกิจหลายแห่งจึงให้ความเข้าใจกับธรรมชาติของคน GenerationY เพื่อดึงดูดและรักษาให้เป็นกำลังสำคัญ ขับเคลื่อนองค์กรณ์ต่อไปได้อย่างยาวนาน และยังส่งเสริมให้คนรุ่นหลังหันมาถึงการวางแผนอนาคตและการเก็บออมให้มากขึ้นรวมถึงการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงในปัจจุบัน GenerationX และ GenerationY เป็นกำลังสำคัญแก่ประเทศแต่จำนวนประชากรรุ่นหลัง GenerationY จะเป็นคนกำหนดทิศทาง ประเทศต่อไปในอนาคต จำนวนประชากรเกิดใหม่ในประเทศไทยนั้น มีแนวโน้มลดลง จึงควรมุ่งเน้นการส่งเสริมคุณภาพประชากรรุ่นใหม่โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ สถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง การศึกษาที่เหมาะสมและเท่าเทียม จะเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างประชากรณ์ยุคใหม่ ให้มีคุณภาพเพื่อเป็นอนาคตประเทศไทย ที่สดใสอย่างยั่งยืน