นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
ในวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม 2555 กำหนดการพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ สมาคมข้าราชการบำเหน็จบำนาญกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ในเรื่องการส่งเสริมการใช้สิทธิตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ณ ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์
ในงานนี้ได้มีการจัดเวทีเสวนาเรื่อง “ผู้สูงอายุกับมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550” และ มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง “การใช้สิทธิตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550”
นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้กล่าวถึงมาตรา 12 ว่ามาตรา 12 นี้จะต้องเรียกว่าสิทธิการปฏิเสธการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นสิทธิของทุกคนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็เป็นธรรมดาที่ว่าถ้าเราไม่อยากรักษา เราก็สามารถที่จะปฏิเสธการรักษาได้ เช่นไม่อยากรักษาก็ไม่ไปหาหมอ หรือถ้าไปหาหมอแล้วหมอวินิจฉัยแล้วว่าต้องกินยาหรือต้องผ่าตัด เราก็มีสิทธิที่จะเลือกได้ว่าเราไม่ผ่าตัด ขอกลับไปรักษาเองเราก็สามารถที่จะทำได้ อาจจะเกิดปัญหาที่ว่าในขั้นปลายของชีวิต ตอนที่เราไม่รู้ตัวแล้วก็จะเกิดปัญหาว่าตอนนั้นเราไม่มีสิทธิในการปฏิเสธ สิทธิ์ที่เราเคยมีอยู่มันหายไปโดยปริยายเพราะว่าเราไม่รู้ตัว เมื่อการแพทย์เจริญก้าวหน้ามากขึ้น หมอวินิจฉัยแล้วว่าจะต้องตายแน่ๆ แต่ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่อาจจะช่วยยืดการตายออกไปเป็นชั่วโมง เป็นวัน เป็นสัปดาห์หรือว่าเป็นเดือนนั่นถือว่าเป็นการยื้อการตาย แต่ถ้าเป็นการรักษาเพื่อช่วยชีวิตให้มีการกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ แพทย์ก็จะทำหน้าที่เต็มที่ แต่ถ้าแพทย์วินิจฉัยว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว การที่ไปยื้อการตายอาจจะทำให้เจ้าของชีวิตขาดการตายอย่างเป็นธรรมชาติ ที่เขาเรียกว่า “ขาดศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์” มาตรา 12 จึงเกิดขึ้น เพื่อดำรงสิทธิ์ไว้ว่าเราสามารถเขียนเป็นหนังสือแสดงเจตนาไว้ เช่น อ.ไพบูลย์ ที่ท่านเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ก่อนที่จะจากไปท่านก็ได้เขียนหนังสือแสดงเจตจำนงว่าขอให้ตายอย่างเป็นธรรมชาติ พอท่านจะสิ้นลมทุกคนก็เคารพสิทธิ์ท่าน ท่านก็จากไปอย่างธรรมชาติ
มาตรา 12 นี้ จะทำให้คนไทยตระหนัก หันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมตัวตาย เพื่อเตรียมใจเตรียมตัว มาตรา 12 เป็นสิทธิที่เราจะเลือกใช้ อาจจะเขียนเป็นตัวอักษรก็ได้ ไม่เขียนก็ได้ ทำให้แพทย์ตัดสินใจง่ายขึ้นในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย